ดีลลงตัว! กสทช.-ค่ายมือถือสรุปให้โทรฟรี 100 นาที
กสทช.เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) สรุปมาตรการช่วยเหลือประชาชน จบที่ให้โทรฟรีบนในเครือข่าย 100 นาที โทรฟรีนอกเครือข่าย 50 นาที มีผล 1 พ.ค.นี้ เชื่อครั้งนี้ช่วยเหลือประชาชนได้ครอบคลุมกว่า 50 ล้านเลขหมาย
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า จากการหารือร่วมผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) 5 ราย ประกอบด้วย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น บมจ.ทีโอที และบมจ.กสท โทรคมนาคม ถึงมาตราการช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์ไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ได้ข้อสรุปร่วมกันในเบื้องต้นแล้ว และจะแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 20 เม.ย.อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
โดยข้อสรุปประกอบด้วย 1. โอเปอเรเตอร์จะให้สิทธิโทรฟรีแต่ประชาชนจำนวน 100 นาที ในการโทรภายในโครงข่าย (On Network) เช่น โทรหากันฟรีภายในเอไอเอสโทรไปหาเอไอเอส ดีแทคโทรไปดีแทค ทรูฯโทรไปทรูฯ โดยจะให้เริ่มได้ในวันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป
2. กำลังเจรจาให้มีการโทรฟรีภายนอกโครงข่าย (Off Network) จำนวน 50 นาทีฟรีกับประชาชน เช่นโทรจากเอไอเอสไปทรูฯ หรือโทรจากดีแทคไปกสทฯ แต่เนื่องด้วยการโทรข้ามโครงข่ายตามปกติต้องมีการเสียค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (อินเตอร์คอนเน็คชั่น ชาร์จ หรือไอซี) นาทีละ 0.29 บาท ดังนั้น จึงยังไม่ได้ข้อสรุปแต่สุดท้ายแล้วก็เชื่อว่าโอเปอเรเตอร์จะยอมจ่ายตรงนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน
"เราจะแถลงข่าวว่าขั้นตอนการรับสิทธิ์โทรฟรีจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะคล้ายกับการรับสิทธิเน็ตฟรี 10 GB คือกด *170* ตามด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก# แล้วโทรออก แต่ครั้งนี้ ใครใช้แพ็คเกจไหน ก็จะท๊อปอัพโทรฟรีเข้าไปเลยได้ทุกคน ชื่อจดทะเบียน1คน หากมี 3 เบอร์ หรือมากกว่านั้นก็ได้ทุกเบอร์ ยกเว้นเพียงแต่ เบอร์ที่จดทะเบียนโดยคนต่างชาติ กับนิติบุคคลเท่านั้น ซึ่งคาดว่าในครั้งนี้จะช่วยเหลือได้ 50 ล้านเลขหมาย"
นายฐากร กล่าวอีกว่า ทราบดีว่าหากมีมาตรการนี้ออกไปก็อาจจะยังมีประชาชนไม่พอใจ แต่ก็ขอให้เห็นใจกสทช.และทุกฝ่ายด้วย เพราะนี้ก็ถือว่ามีกาช่วยเหลือแล้ว ซึ่งจากสถิติของการใช้โทรศัพท์มือถือถึงแม้ปัจจุบันจะมีการโทรหากันผ่านแอพพลิเคชั่น เช่น ไลน์ วิดีโอคอล เฟซบุ๊ค เมสเซนเจอร์ แต่ในไทยยังมีการโทรหากันผ่านระบบเสียงแบบปกติอยู่ถึงราว 70% และที่ผ่านมากสทช.ก็ได้ช่วยเหลือโดยให้อินเทอร์เน็ตฟรีไปแล้ว 10 GB
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากการหารือกันที่ผ่านมา มีความไม่สบายใจขอวหลายฝ่าย ในส่วนของโอเปอเรเตอร์แม้จะมีการพูดถึงกำลังมหาศาลของแต่ละค่ายที่ทำได้ในปีที่ผ่านๆมา แต่ก็มองในภาพรวมว่าธุรกิจจำเป็นต้องประกอบกิจการให้อยู่รอด อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
หลังจากที่ประชุมร่วมกัน 3 ครั้งได้พบข้อมูลว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โอเปอเรเตอร์ขาดกระแสเงินสดอย่างหนักเพื่อนำไปประกอบกิจการ โดยในช่วงปกติเอไอเอสจะมียอดการเติมเงินเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 140 ล้านบาท ปัจจุบันลดลงไปเหลือ 50 ล้านบาท ดีแทคมียอดอยู่ที่ 20 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 5 ล้านบาท และทรูฯเดิมอยู่ที่ 90 ล้านบาท ปัจจุบันลดลงไปเหลือเพียง 30 ล้านบาทเท่านั้น ประกอบกับโอเปอเรเตอร์ยังมีภาระการจ่ายหนี้เป็นค่าใบอนุญาต 4จี และ 5จี ที่ประมูลกันไป
โดยในเดือนมิ.ย.นี้ เอไอเอสต้องจ่ายค่าคลื่น 900 ที่ 24,000 ล้านบาท ส่วนทรูฯเพิ่งมาจ่ายไปเมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ดีแทคต้องจ่าย 11,000 ล้านบาท และในปี 2563 นี้มีนัดต้องจ่ายอีกในเดือนก.ค. ต.ค. และธ.ค. ของทั้ง 3 โอเปอเรเตอร์เลย ซึ่งเรื้องนี้รัฐบาลไม่สามารถขอให้ผ่อนผันได้แต่อย่างใด ซึ่งทางโอเปอเรเตอร์เองก็มีเสียงบ่นออกมาว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทำรายได้สูงก็จริงแต่ก็มีรายจ่าย และการลงทุนอยู่ตลอด ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลเองมาขอให้ช่วยประมูล 5จีเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศ ทุกคนก็พร้อมให้ความสนับสนุน แต่ในขั้นตอนการจ่ายเงินไม่เคยได้รับการผ่อนปรนแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร