‘Borderless Healthcare Group’ ส่งคลาวด์โซลูชั่นระบบการแพทย์ในที่พักอาศัยรับแอลจีบีที
'Borderless Healthcare Group’ บุกตลาดเฮลท์แคร์ ส่งคลาวด์โซลูชั่นระบบการแพทย์ในที่พักอาศัย สำหรับกลุ่มเพศทางเลือก LGBT ในประเทศไทย ดึงผู้เชี่ยวชาญด้านแอลจีบีทีทั่วโลกทำงานร่วมกับแพทย์ในประเทศไทย หวังสร้างฐานความมั่นใจ ขยายตลาดการเข้าถึงกลุ่มทางเลือก
เพื่อบุกเบิกระบบเศรษฐกิจรูปแบบใหม่สำหรับกลุ่ม LGBT ผ่านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีคลาวด์ “Borderless.lgbt”
Dr. Wei Siang Yu ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการกลุ่ม Borderless Healthcare Group กล่าวว่า Borderless Healthcare Group ถือเป็นผู้บุกเบิกระดับโลกในด้านระบบเศรษฐกิจการดูแลสุขภาพที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ด้วยเทคโนโลยี การบริการ เนื้อหา สื่อ ผลิตภัณฑ์ และข้อมูลศาสตร์ ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ภายในระบบนิเวศทั่วโลกของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การดูแลสุขภาพ ความชราภาพ สุขภาพ อาหาร เทคโนโลยี สื่อ ธนาคารชีวภาพ บริการระบบคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ ธุรกิจการบริการ และการลงทุน
ซึ่งในครั้งนี้ได้ประกาศศักราชใหม่แห่งระบอบเศรษฐกิจสำหรับกลุ่ม LGBT ท่ามกลางการระบาดของโควิด–19 กำลังประทบ Pride Month หรือเดือนแห่งความภูมิใจของกลุ่ม LGBT ในปีนี้ ด้วยการเปิดตัวระบบคลาวด์เพื่อสุขภาพสำหรับกลุ่ม LGBT ที่ใช้ชื่อว่า ‘Borderless.lgbt’ เพื่อตอบโจทย์กลุ่ม LGBT ที่มีจำนวนประชากรกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก และให้บริการด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีผ่านระบบออนไลน์สู่ออฟไลน์แก่ชุมชนกลุ่ม LGBT ได้ทุกที่โดยไม่จำกัดขอบเขต
ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ แท็บเลต สมาร์ทโฟน ผ่านระบบคลาวด์แบบไร้พรมแดนพร้อมกันกับแพทย์ท้องถิ่นในคลินิก ในโรงแรมที่พัก หรือแม้แต่ที่บ้าน ได้อย่างสะดวกสบาย โดยจะเป็นเครื่องมือสื่อสารและสามารถใช้หลายจอพร้อมกัน ทั้งมีแพทย์ประจำตัว ผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่างๆ อาทิ การออกกำลังกาย การโภชนาการ การวางแผนครอบครัว โดยสามารถสนทนาพร้อมกันได้ และในระบบจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ และบริการต่างๆที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
“ที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเช่นในประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มแอลจีบีทีมากกว่า 50% ประสบปัญหาไม่ได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียม อีกทั้ง 50% ที่เปลี่ยนเพศแล้วนั้นแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญพอที่จะให้คำปรึกษา และ 28% ของผู้ไม่ปฏิบัติตามเพศและข้ามเพศเลื่อนการรักษาพยาบาลเมื่อป่วยหรือได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการเลือกปฏิบัติและการไม่ให้เกียรติ ส่วน 1 ใน 4 ของกลุ่มแอลจีบีทีจากการสำรวจพบว่าไม่ประสงค์ไปหาหมอเนื่องจากมีความกังวล ขณะเดียวกัน 75% ของรายงานเลสเบี้ยนล่าช้าหรือหลีกเลี่ยงการรักษาพยาบาล ส่วนกลุ่มแอลจีบีทีที่เป็นชาวผิวสีนั้นมีโอกาสพบแพทย์น้อยลงกว่าเท่าตัว และสุดท้ายมีเพียง 16% ของผู้ป่วยที่เป็นแอลจีบีทีเลือกที่จะแจ้งแพทย์เกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของพวกเขา”
ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัญหาทางด้านการแพทย์ที่ประสบ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่โรคติดต่อ แต่จะมีทั้งโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ปัญหาทางด้านโภชนาการ และอื่นๆอีกมากมาย หากเป็นอายุน้อยปัญหาจำนวนมากกว่าคนอายุเยอะ ดังนั้นเราจึงต้องการเข้าไปจัดการตรงส่วนนี้
Dr. Wei กล่าวต่อไปว่า การเลือกประเทศไทยเป็นฐานการเปิดตัวระบบ เนื่องจากกลุ่มชุมชน LGBT ในประเทศที่มีขนาดใหญ่จำนวนกว่า 4 ล้านคน และมีการขับเคลื่อนตลอดเวลา รวมถึงวัฒนธรรมไทยที่เป็นมิตรกับกลุ่ม LGBT นอกจากนี้ ประเทศไทยยังอยู่ในตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ระหว่างจีนและอินเดีย ซึ่งมีประชากร LGBT ประมาณ 70 ล้านคนต่อประเทศ ไม่รวมถึงชุมชนชาวต่างชาติในกลุ่ม LGBT ที่พักอาศัยอยู่ในประเทศจากรัสเซีย ยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ยังมีวิวัฒนาการทางการแพทย์สำหรับกลุ่ม LGBT ในที่พักอาศัย และการขยายตัวไปสู่อุตสาหกรรมการบริการ จะเพิ่มมิติทางเศรษฐกิจอีกหลายมิติ อาทิเช่น การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของกลุ่ม LGBT, ชีวิตหลังเกษียณอายุของกลุ่ม LGBT, โทรเวชกรรมให้กับกลุ่ม LGBT, ที่พักรีสอร์ทสำหรับกลุ่ม LGBT และนวัตกรรมเพื่อกลุ่ม LGBT ในการเสริมรากฐานให้กับกลุ่ม LGBT ที่มีอยู่ในประเทศไทย
“ทั้งนี้การจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยกว่า 1% ของจีดีพี ถือว่ามีสัดส่วนมากที่สุดจากทั่วโลกมาจากการใช้จ่ายของกลุ่มแอลจีบีที ดังนั้นเป็นการนำศักยภาพเหล่านั้นมาเพิ่มผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจของไทยได้ ดังนั้นเราสามารถดึงดูดเม็ดเงินเหล่านี้ขยายและโตได้ในไทย เราจึงมองว่านอกจากดูแลที่บ้านแล้ว อาจจะอยากใช้ชีวิตช่วงเกษียณในไทยที่อาจจะต้องการการตั้งฐานในการทำธุรกิจ อย่าง โคเวิร์กกิ้งสเปซ และพร้อมใช้ชีวิตควบคู่ไปด้วยเพื่อการเป็นอยู่ที่ดีในช่วงวัยเกษียณ ส่วนในอนาคตมีโปรเจ็กต์ที่จะพัฒนาอีกมากมาย อาทิ การใช้เมืองไทยเป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์เกี่ยวกับแอลจีบีที หรือ ผลิตภัณฑ์เฉพาะที่จะเติบโตในไทย”
โดยจะเริ่มนำร่องในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหลักที่สำคัญ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มแอลจีบีที อีกทั้งยังมีการประกาศให้พื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นภูเก็ตแซนด์บ็อก รวมทั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ห่างไกลกับประเทศท่องเที่ยวอื่นๆ ดังนั้นเดินทางค่อนข้างสะดวก จึงถือเป็นฐานสำคัญในการเติบโตของบริษัท ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจได้
ในระหว่าง 3 เดือนนี้ Borderless Healthcare Group จะอำนวยความสะดวกให้กับทีมแพทย์ในประเทศไทย เพื่อให้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความรู้ข้ามพรมแดนกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระดับนานาชาติอื่นๆ ซึ่งจะปฏิรูปประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์เพื่อกลุ่ม LGBT ระดับสากล ที่มีเอกลักษณ์พร้อมด้วยความสามารถในการใช้ระบบคลาวด์ดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยทีมแพทย์ท้องถิ่นและทีมแพทย์นานาชาติ เพื่อให้บริการบุคคลชาว LGBT ทั้งหลายทั่วโลก ด้วยภูมิปัญญาที่ดีที่สุดและเปี่ยมด้วยความรับผิดชอบทางกฎหมายทางการแพทย์ อันจะนำไปสู่ระบอบเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืน ระหว่างที่อุตสาหกรรมด้านการบริการ ซึ่งเป็นธุรกิจสำคัญของประเทศ กำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19