’ไลน์’ เร่งกลยุทธ์ลุย 'โซเชียลคอมเมิร์ซ'

“สถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปี 2563 จนถึงในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของคนไทยให้แตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะขณะนี้ที่หลายธุรกิจกำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์และมองหาโอกาสเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจ พันธกิจของไลน์มุ่งทำให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้โดยเร็วที่สุด ลดต้นทุนในการดำเนินงาน พร้อมเพิ่มการติดต่อสื่อสารระหว่างธุรกิจและผู้คน”

ไลน์ระบุว่า บริการ ไลน์ชอปปิง (LINE SHOPPING) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไตรมาสแรกเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 272% โดย 5 กลุ่มสินค้าที่ขายดีที่สุด ได้แก่ แฟชั่น สุขภาพและความงาม อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ภายในบ้าน และไอทีแก็ทเจ็ท โดยมีการแชทที่เปิดโอกาสให้ผู้ขายและผู้ซื้อพูดคุยสอบถามรายละเอียดแบบเรียลไทม์เป็นกุญแจสำคัญ 

สถิติที่น่าสนใจเวลาที่คนนิยมซื้อสินค้ามากที่สุดอยู่ในช่วง 12:00 น. และ 20:00 น. นักช้อป 80% ชำระเงินโดยการโอนเงินผ่านธนาคาร และ 20% ชำระผ่านเครดิตการ์ดและแรบบิทไลน์เพย์ โควิดระลอกใหม่ส่งผลให้ยอดขายสินค้าประเภทสุขภาพและความงามพุ่งสูงถึง 35%

เขากล่าวว่า ธุรกิจระดับเล็กที่ประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ หลักๆ ต้องมีแพสชั่นในการทำธุรกิจให้อยู่รอด มีความสามารถในการเข้าถึงลูกค้ารายบุคคล ยืดหยุ่นปรับตัวได้เร็ว แม้มีงบประมาณจำกัดแต่มีความสามารถในการบริการจัดการการใช้จ่าย ที่สำคัญมีความคิดสร้างสรรค์

“ผู้ค้าจำต้องเข้าหาทุกโซลูชั่นที่มีบริการในตลาด เพื่อหาการสนับสนุนด้านการค้า ช่องทางการจัดจำหน่าย มีความยืดหยุ่นในการนำเสนอสินค้า และทำให้ลูกค้าขาจรกลายเป็นแฟนให้ได้”

ปัจจุบัน ไลน์ออฟฟิเชียลแอคเคาท์มีอยู่ประมาณ 4 ร้านราย มีร้านค้าที่มาใช้งานไลน์ชอปปิงประมาณ 2 แสนร้านค้า ร้านค้ามีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 150,000 – 500,000 บาท ล่าสุดเทียบระหว่างเดือนเม.ย. 2563 ถึงเม.ย. 2564 ตัวเลขยอดสมัครเปิดร้านโต 7 เท่า หรือ 64% รวมมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 7 ล้านราย เติบโตเป็น 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยต่อคำสั่งซื้อมียอดประมาณ 1-1.2 พันบาท จากทั้งหมดกว่า 30% เป็นผู้ซื้อที่กลับมาซื้อซำ้

“ไลน์ชอปปิงจะเป็นทั้งทางรอดในสถานการณ์ล็อกดาวน์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยที่เป็นภาคธุรกิจที่มีความพิเศษเฉพาะตัว และเป็นแหล่งรวมร้านค้าโซเชียลที่ให้นักช้อปได้สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยของไทย”