ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition”

ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition”

รีวิว “GoPro HERO11 Black Creator Edition” กล้องแอคชั่นแคมที่ยังครองใจนักผจญภัย และล่าสุดมาพร้อมกับชุดสุดอลังการที่ต้องถูกใจชาว "คอนเทนต์ครีเอเตอร์"

จะบอกว่าครบจบในชุดเดียวก็ได้ เพราะ GoPro HERO11 Black Creator Edition เป็นกล้องโกโปรตัวล่าที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับการถ่ายทำคอนเทนต์แบบฉบับครีเอเตอร์

ในกล่องประกอบด้วยกล้อง GoPro HERO11 Black, Media Mod ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ, Volta ด้ามจับที่ทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองและมีปุ่มกดสั่งงานต่างๆ, Light Mod ไฟ LED ติดหัวกล้องที่มีกำลังไฟสว่างใช้ได้เลย, แบตเตอรี่ Enduro Battery แบตหัวสีขาวในตำนานที่ขึ้นชื่อว่าอึดขึ้น และอุปกรณ์สำหรับยึดจับต่างๆ ที่ให้มาแบบครบถ้วนพร้อมลุย

ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition”

 

ก่อนจะไปว่ากันถึงการใช้งานจริง ดูที่รูปร่างหน้าตาของ "GoPro HERO11 Black Creator Edition" กันก่อน สำหรับคนที่เคยใช้งาน "GoPro HERO9" หรือ "GoPro HERO10" มาก่อน จะคุ้นเคยกับหน้าตานี้ดี เพราะ "GoPro HERO11" ยังคงใช้บอดี้กล้องแบบเดียวกันเป๊ะ เพียงแค่เปลี่ยนตัวเลขมาเป็น 11 และสีฟ้อนต์ที่มาใช้สีฟ้า Iconic แทนที่สีขาวใน GoPro HERO9

ความที่บอดี้เป็นแบบเดิม ข้อดีคือทำให้ถ้าใครยังมี Media Mod ของรุ่นก่อน ก็ยังใช้ร่วมกันได้ แต่จากการคาดการณ์นี่น่าจะเป็นโมเดลท้ายของบอดี้นี้ เพราะครบวงรอบที่จะต้องเปลี่ยนดีไซน์แล้วในรุ่นหน้า

ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition”

 

เซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น

บอดี้เดิมแต่ข้างในไม่เหมือนเดิม เพราะ "GoPro HERO11 Black" ให้เซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นเป็น 1/1.9 นิ้ว อัตราส่วนเซ็นเซอร์ 8:7 ผลที่ได้คือมีองศารับภาพกว้างขึ้น นำไปรีเฟรมเป็นอัตราส่วนภาพอื่นๆ ได้หลากหลายทั้งแนวตั้งแนวนอน ตอบโจทย์ครีเอเตอร์ทุกแพลตฟอร์ม

แล้วความสูงขึ้นของเซ็นเซอร์จะได้ใช้เมื่อไร นอกจากการถ่ายช็อตเดียวแล้วนำมารีเฟรมเป็นอัตราส่วนต่างๆ เวลาที่จำเป็นต้องถ่ายสิ่งที่สูงใหญ่มากๆ เซ็นเซอร์จะเก็บภาพได้มากขึ้นโดยเฉพาะในทางสูง แต่ก็แอบต้องมีเทคนิคเล็กน้อยหากใช้อัตราส่วน 8:7 คือแบบควรอยู่ตรงกลางเฟรม เพื่อให้สะดวกในการนำไปจัดการต่อบนแพลตฟอร์มต่างๆ

แต่ข้อจำกัดของฟีเจอร์อัตราส่วน 8:7 คือจะปรับระบบกันสั่นได้, เฟรมเรทจำกัดสูงสุดที่ 25 fps เท่านั้น, เลือกคุณภาพไฟล์ได้ที่ 5.3K กับ 4K เท่านั้น

ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition”

วิดีโอ 10-bit ปรับสีกันให้หนำใจ

โกโปรรุ่นนี้ถ่ายวิดีโอด้วยโปรไฟล์สี 10-bit ได้ ถ้าเป็นสายวิดีโอจะรู้ดีว่าตัวเลขนี้จะช่วยให้นำไปปรับแต่งสี (Grading) กันได้เต็มที่ เพราะมีความกว้างสีมากถึง 1,000 ล้านสี ในขณะที่ถ้าหากเป็น 8-bit อย่างในกล้องแอคชั่นแคมทั่วไป จะมีความกว้างสีอยู่ที่ 16 ล้านสี

ความแตกต่างนี้จะสังเกตได้ชัดเมื่อดูในหน้าจอที่ค่อนข้างดี และเมื่อต้องนำไฟล์ไป Grading สี จะทำให้ได้สีสันที่ดีมากขึ้นไม่ว่าสภาพแสงหรือสีของไฟล์ต้นฉบับจะไม่ค่อยดีนัก แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ประสิทธิภาพนี้คงต้องมองกันเฉพาะว่ากล้องเก็บรายละเอียดสีได้มากขึ้นมหาศาลก็พอ

ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition”

สมูทด้วยระบบกันสั่นใหม่ HyperSmooth 5.0

ระบบกันสั่นคือหัวใจหลักของ Action Camera เพราะจำเป็นต้องใช้เวลาเคลื่อนไหว แน่นอนว่า "GoPro HERO11 Black" ยังรักษามาตรฐานเรื่องระบบกันสั่นเอาไว้ได้ดี อันที่จริงคือยกระดับมาตรฐานขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดด้วย HyperSmooth 5.0

ความสามารถของระบบกันสั่นใหม่นี้ทำให้ภาพที่ได้ความนิ่ง ลื่นไหลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับการเปิดระบบกันสั่นปกติ ในการใช้งานไม่ว่าจะถือเดิน, วิ่ง, หรือทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์แค่ไหน ก็ยังได้ภาพสมูทๆ ดูแล้วไม่เวียนหัว

นอกจาก HyperSmooth 5.0 จะกันสั่นได้อย่างน่าประทับใจ อีกฟีเจอร์ที่มาด้วยกันคือ Linear Horizon Lock หรือฟีเจอร์ปรับความระนาบของภาพที่พัฒนามาแบบน่าตกใจ เพราะเมื่อเปิดฟังก์ชันนี้ ไม่ว่าจะเอียงกล้องมากแค่ไหน หรือถึงขนาดหมุนกล้อง 360 องศา ภาพก็ยังตรงในระนาบเดียวกับเส้นขอบฟ้า

ไฮไลท์ตะลุยสวนน้ำ Columbia Pictures Aquaverse ถ่ายทำด้วย GoPro HERO11 Black Creator Edition เป็นกล้องหลักด้วยฟีเจอร์ต่างๆ

ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition”

มีฟีเจอร์สนุกๆ ให้ครีเอทช็อตกันเต็มที่

นอกจากการใช้งานอย่างจริงจัง ใน "GoPro HERO11 Black" มีพวกโหมดที่เป็นลูกเล่นของการถ่ายวิดีโอทั้ง Time Laps, Time Warp ในรุ่นนี้ยังล้ำกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอ Star Trails, Light Painting และ Vehicle Light Trails ที่จะสร้างสีสันให้วิดีโอของคุณดูแปลกตามากขึ้น

ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition”

ไม่ร้อน พร้อมลุย!

ปัญหาหนึ่งที่เจอกันมาตลอดในรุ่นก่อนๆ คือเมื่อถ่ายต่อเนื่อง กล้องจะร้อนจัด จนกล้องตัด ใน "GoPro" รุ่นนี้ จัดการเรื่องความร้อนได้ค่อนข้างดีกว่าเดิมมากๆ คือตั้งแต่ใช้งานจริงมา ทั้งถ่ายต่อเนื่อง ถ่ายด้วยความละเอียดสูง หรือแม้แต่ถ่าย Time Laps นานๆ ก็ยังไม่เจออาการกล้องร้อนจนตัด มีแค่อุ่นๆ บ้าง

ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition”

GoPro HERO11 Black Creator Edition เหมาะกับใคร

ถ้าเป็นคนใช้งานกล้องโกโปรอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีในรุ่นก่อน อาจจะยังไม่ต้องเร่งรีบนักที่จะเปลี่ยนมาใช้รุ่นใหม่นี้ แต่ถ้าเป็นคนที่จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ต่างๆ อย่างครบครัน และอยากได้ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ให้มา ก็คงถึงเวลาที่ต้องมามอง "GoPro HERO11 Black" และยิ่งถ้าเป็นครีเอเตอร์ไม่ว่ามือเก๋าหรือมือใหม่ที่กำลังอยากเดินสายนี้ "GoPro HERO11 Black Creator Edition" คือตัวเลือกที่ดีมาก เพราะมีอุปกรณ์ครบจบในกล่องและใช้งานได้จริง อาจติดตรงที่ว่าเวลาถ่ายทำกิจกรรมทางน้ำจะไม่ได้ใช้ความสามารถของ Media Mod และ Volta เนื่องจากทั้งสองอุปกรณ์ไม่กันน้ำ (โดนละอองน้ำได้นิดหน่อย)

ครีเอเตอร์ถูกใจสิ่งนี้ “GoPro HERO 11 Black Creator Edition” ตัวอย่างภาพนิ่งจาก GoPro HERO11 Black Creator Edition

สำหรับราคาของ "GoPro HERO11 Black Creator Edition" อยู่ที่ 26,000 บาท ส่วน GoPro HERO 11 Black ชุดปกติราคา 18,500 บาท และนอกจากนี้ยังมี GoPro HERO 11 Black Mini จะอยู่ที่ 15,000 บาท