'Nothing Phone' ลดราคา! ที่งาน 'Thailand Mobile Expo 2023' โอกาสของคนอยาก Hype
"Nothing Phone" มือถือสุดแนวแห่งยุค หนึ่งในไอเทมของคนรัก Gadget ที่ไม่อยากใช้สมาร์ทโฟนซ้ำใคร วันนี้เป็นโอกาสทองของคนที่อยากเป็นเจ้าของแล้ว เพราะในงาน "Thailand Mobile Expo 2023" สมาร์ทโฟนของคนคูลๆ กำลังลดราคา และมีเครื่องตัวจริงให้สัมผัสได้เลย
ตั้งแต่ Nothing Phone รุ่นแรก มาจนถึง Nothing Phone 2 สมาร์ทโฟนแบรนด์นี้ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น เพราะ Nothing Phone เป็นสมาร์ทโฟนแห่งอนาคตที่มาครบทั้งฟังก์ชันและแฟชั่น แถมยังถูกจัดให้เป็นสมาร์ทโฟนสุดไฮป์ (Hype) ทำนองเดียวกับสินค้าแฟชั่นอย่างเสื้อผ้ารองเท้า Limited
วันนี้ KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะมาชี้เป้าให้คนอยากไฮป์ ได้ครอบครอง Nothing Phone ง่ายขึ้น ที่งาน Thailand Mobile Expo 2023 ซึ่งมาพร้อมโปรโมชันเย้ายวนใจ
ในงาน "Thailand Mobile Expo 2023" ซึ่งจะมีไปถึงวันที่ 29 ต.ค.2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แบรนด์ Nothing ได้ขนทัพสมาร์ทโฟน "Nothing Phone" รวมถึง Gadget อื่นๆ ในค่าย มาลดราคาและอวดโฉมตัวจริงให้ทุกคนได้สัมผัส
สำหรับ Nothing Phone (1) มีด้วยกัน 3 สเปก 3 ราคาพิเศษ
- Phone (1) 8+128GB สีดำ ราคา 13,900 บาท จาก 18,990 บาท
- Phone (1) 8+256GB สีดำ ราคา 14,900 บาท จาก 19,990 บาท
- Phone (1) 12+256GB สีดำและสีขาว ราคา 16,900 บาท จาก 21,990 บาท
ไม่เพียงแค่นั้น Nothing Phone (1) ยังแถมฟรีเคส, ฟิล์ม และหูฟัง Ear (Stick) มูลค่ารวม 5,988 บาทด้วย
Nothing Phone (1)
ส่วน Nothing Phone (2) มีด้วยกัน 4 สเปก 4 ราคา
- Phone (2) 12+256GB สีเทาเข้ม ราคา 24,990 บาท
- Phone (2) 12+512GB สีเทาเข้ม ราคา 27,990 บาท
- Phone (2) 12+256GB สีขาว ราคา 23,190 บาท จาก 24,990 บาท
- Phone (2) 12+512GB สีขาว ราคา 26,190 บาท จาก 27,990 บาท
นอกจากนี้ Nothing Phone (2) ทุกรุ่นยังแถมเคส และ Adapter Phone (2) ด้วย
ไม่ได้มีเพียงแค่สมาร์ทโฟน แต่ยังมีหูฟัง Nothing Ear (2) ที่มาลดราคาพิเศษ 4,690 บาท จาก 5,490 บาท
Nothing Phone (2)
Nothing Ear (2)
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก Nothing Phone มือถือจากค่ายนี้มีจุดเด่นอยู่หลายประการ ยกตัวอย่าง Nothing Phone (2) ที่เพิ่งวางจำหน่ายในประเทศไทยไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อาทิ ฝาหลังที่เป็นกระจกใส เผยให้เห็นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในตัวเครื่อง แล้วเสริมด้วย LED Glyph Interface แถมยังล้ำไปอีกขั้นด้วยไฟ LED รวมทั้งสิ้น 33 โซน
ไฟ LED เหล่านี้มีไว้เพื่อแสดงสถานะ การแจ้งเตือน ที่เรียกว่า Essential Glyph Notifications แจ้งเตือนแยกเป็นรายบุคคลก็ได้ รายแอปพลิเคชันก็ได้ รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ของ Glyph Interface ให้ตอบสนองกับการทำงานของสมาร์ทโฟนในูปแบบต่างๆ อาทิ ตั้งนาฬิกาจับเวลาแล้วคว่ำหน้าจอลง หลอดไฟก็จะค่อยลดลงตามเวลา หรือเวลาปรับระดับเสียง ไฟที่ด้านหลังก็จะค่อยๆ ลดระดับ
Nothing Phone (2) มีกล้องหลังคู่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX890 ความละเอียด 50MP มาพร้อมระบบกันสั่น OIS + EIS ส่วนกล้อง Ultrawide ใช้เซนเซอร์ Samsung JN1 ความละเอียด 50MP รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60FPS ส่วนกล้องหน้าความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 32MP โดยปรับตำแหน่งรูกล้องมาไว้ตรงกลาง รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 1080P 60FPS
และอีกสารพัดสิ่งที่ Nothing ให้มาใน "Nothing Phone"