ยังไม่ตกขบวน! อัปเดทสถานะ Thailand Digital Valley ยังดีพอดึงต่างชาติลงทุน?
ดีป้า เผย อยู่ระหว่างเจรจานักลงทุนซัพพลายเชนคลาวด์ไต้หวัน รับนโยบายคลาวด์ เฟิร์ส คาดโรงงานกว่า 500,000 โรงในอีอีซี ตื่นตัว ดันตลาดโต ชี้ Thailand Digital Valley พร้อมให้เอกชนเข้ามาตกแต่งพื้นที่ ก.ย.นี้ คาดหากพื้นที่เต็มปั้นมูลค่าลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท
ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ (Eastern Economic Corridor: EEC) มีจำนวนโรงงานอยู่ประมาณ 500,000 ราย ขณะนี้มีสตาร์ทอัปญี่ปุ่นที่สนใจให้บริการกับบริษัทญี่ปุ่นในพื้นที่ติดต่อมาเช่าพื้นที่ในโครงการ Thailand Digital Valley ภายใต้เขตเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทย (Eastern Economic Corridor of Digital: EECd)
ขณะที่เร็วๆนี้ ดีป้าจะเดินหน้าเชิญชวนบริษัทด้านซัพพลายเชนของไต้หวันเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่นี้ด้วย ซึ่งเขาเห็นโอกาสของนโยบายคลาวด์เป็นหลัก Cloud First Policy ในประเทศไทย จึงต้องการเข้ามาทำตลาด หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) สำหรับ AI กับโรงงานในพื้นที่ EEC ซึ่งการเข้ามาใช้พื้นที่ของ Thailand Digital Valley นอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน : บีโอไอ
หากมีการซื้อสินค้าหรือบริการที่ขึ้นทะเบียนใน ‘บัญชีบริการดิจิทัล’ เอกชนจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการลดหย่อนภาษีสูงถึง 200% รวมถึงการพัฒนากำลงคนหากเอกชนส่งบุคคลากรมาเรียนในหลักสูตรด้านดิจิทัลที่ดีป้าให้การรับรองสามารถนำค่าใช้จ่ายนั้นไปลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ถึง 250%
“คร่าวๆคือทั้งตึกจะทยอยก่อสร้าง แต่หากจะให้เสร็จครบสมบูรณ์ทั้ง 5 อาคารน่าจะในปี 2569 ถ้าถามว่าช้าไหม ก็ต้องตอบว่าเกิดปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ แต่การดึงดูดนักลงทุนด้วยมาตรการส่งเสริมบริษัทต่างชาติเรามีมากกว่าที่สุดในอาเซียน และระบบนิเวศไทยพร้อมที่สุด ยืนยันว่าเราเป็นฮับได้อย่างแน่นอน”
สำหรับความคืบหน้าในการสร้าง Thailand Digital Valley จำนวน 5 อาคาร รวมพื้นที่ใช้สอย 100,000 ตารางเมตร ได้แก่ อาคารสำนักงาน 1 ตึก ที่เหลือเป็นอาคารนวัตกรรม 4 ตึก โดย ตึกที่ 1 และ ตึกที่ 2 ที่เป็นสำนักงาน มีคนมาเช่าใช้พื้นที่เต็มหมดแล้ว ขณะที่ตึกที่ 3 พื้นที่ 20,000 ตรม.เป็นพื้นที่ของ สตาร์ทอัป , ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอปอเรเตอร์) และบริษัทเครือข่ายโทรคมนาคม โดยบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS เป็นเจ้าแรกที่มาเปิดพื้นที่ และตั้ง AIS EEC - Evolution Experience Center หรือ ศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อธุรกิจ
ส่วนอีริคสัน (ประเทศไทย) รอการสร้างอาคารให้แล้วเสร็จ ซึ่งโครงการล่าช้าไป 270 วัน เนื่องจาก บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ติดปัญหาโควิด น้ำท่วม และการสั่งซื้อของไม่ทันเวลา และเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน คาดว่าภายในเดือน ก.ย.-พ.ย. 2567 นี้ จะสามารถเปิดพื้นที่ให้เอกชนเข้ามาตกแต่งภายใรออฟฟิศของตัวเองได้ ทั้งนี้ หากมีผู้เช่าครบทั้ง 5 อาคาร จะสามารถก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนได้ 15,000 ล้านบาท และจะสร้างงานได้มากกว่า 20,000 ตำแหน่งในพื้นที่ดังกล่าว
ณัฐพล เผยว่า Thailand Digital Valley จะเป็นศูนย์กลางการออกแบบ พัฒนา วิเคราะห์ ทดสอบ ทดลองเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับประเทศไทยและส่งเสริมให้คนไทยก้าวไปสู่เวทีระดับโลก
ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีด้านการออกแบบฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Devices) เทคโนโลยีด้านการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เทคโนโลยี IoT, AI, Software Convergence และ Cloud Innovation
ซึ่งจะช่วยสนับสนุนธุรกิจและต่อยอดการส่งออกของประเทศ นำไปสู่การใช้งานทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน รวมถึงการให้บริการด้านดิจิทัลที่เกิดขึ้น ตลอดจนรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตและอุตสาหกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ จะทำให้เกิดบทบาทและจุดยืนในเรื่อง Digital Content, Animation, Game และ e-sports เป็นพื้นที่สร้างบรรยากาศการค้าการลงทุน และผลักดันให้เกิดศูนย์กลางความร่วมมือทางการค้าระดับสากล