‘ฟูจิฟิล์ม’ ส่ง ‘บิสซิเนส อินโนเวชั่น’ เขย่าสมรภูมิลงทุนไอที
เปิดวิสัยทัศน์ 2 ผู้บริหารจาก "ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น" หนึ่งในบียูของฟูจิฟิล์มที่ปีนี้มีแผนรุกหนักตลาดโซลูชั่นสำหรับธุรกิจ ท้าทายการลงทุนไอทียุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นที่ทุกอย่างต้องเร็ว และตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่
KEY
POINTS
- การใช้จ่ายด้านไอทีของประเทศไทยในปี 2567 นี้จะเติบโตราว 5.8% มูลค่าแตะ 1 ล้านล้านบาท
-
ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น วางตำแหน่งเป็น “ดิจิทัล โซลูชันโพรวายเดอร์” เน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ “สมาร์ต ดิจิทัล บิซิเนส โซลูชั่น” รวมถึง “สมาร์ต เวิร์ก อินโนเวชั่น” แบบเต็มตัว
-
ชูผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ “FUJIFILM IWpro” คลาวด์โซลูชันแบบครบวงจร ผู้ช่วยธุรกิจรับมือกับความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานยุคใหม่
-
ตลาดไทยติดอันดับท็อป 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปีนี้หวังเติบโตได้สวนกระแส
ยุคที่ดิจิทัลเข้ามาดิสรัปในหลากหลายมิติของการใช้ชีวิต การทำงาน และการทำธุรกิจ “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น” กลายเป็นกลจักรสำคัญที่ชี้วัดการเติบโต เพิ่มความคล่องตัว และทางรอดขององค์กร ท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง ทั้งยังมีปัจจัยลบทางเศรษฐกิจเข้ามาท้าทายอยู่ตลอดเวลา...
ทิพย์อาภา ลชิตาวงศ์ ผู้จัดการการตลาดด้านผลิตภัณฑ์โซลูชั่น กล่าวว่า บริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการดิจิทัลโซลูชันสำหรับสำนักงานและเครื่องพิมพ์ชั้นนำ กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี ภาพรวมการลงทุนไอทีของประเทศไทยปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องบริษัทวิจัย การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายไอทีของไทยในปีนี้จะเติบโตราว 5.8% มูลค่าแตะ 1 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก ที่น่าสนใจคือ การใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์ที่เติบโต 15.9% มูลค่ากว่า 2.42 แสนล้านบาท
ข้อมูลโดยไอดีซีระบุด้วยว่า การใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์ AI ปีที่ผ่านมามีมูลค่าอยู่ที่ 1.18 พันล้านบาท ระหว่างปี 2566 - 2570 อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 43.1% และอีกหนึ่งตลาดที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องคือพับบลิกคลาวด์ซึ่งทาง Statista เผยว่าปีที่ผ่านมามูลค่ากว่า 6.552 หมื่นล้านบาท ระหว่างปี 2567 - 2572 คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปี 19.6%
อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริงจากการประเมินช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาพบว่าตลาดชะลอกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ทว่ายังหวังว่าจะมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน จากสัญญาณบวกเช่นตลาดหุ้นที่ดูดีขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะมีส่วนทำให้ทิศทางตลาดเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น
กล่าวได้ว่า วันนี้การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นเรื่องปกติขององค์กรธุรกิจทุกขนาด โดยได้เห็นว่าหลายองค์กรวางเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ทั้งมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นระบบอัตโนมัติมาใช้งานมากขึ้น
นอกจากนี้ เห็นเทรนด์การเติบโตที่ชัดเจนของการใช้บริการพับบลิกคลาวด์ การลงทุนซอฟต์แวร์เพื่อเป้าหมายด้านการเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน รวมถึงการเติบโตของโมเดลการลงทุนและการให้บริการรูปแบบซอฟต์แวร์แอสอะเซอร์วิส
พบด้วยว่า ธุรกิจไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อใช้งานเทคโนโลยี GenAI มองหาวันสต็อปโซลูชันที่ลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่ครอบคลุมทุกการใช้งาน รวมถึงการลงทุนซอฟต์แวร์อีอาร์พีที่จากแต่ก่อนมีแค่บริษัทขนาดใหญ่เท่านั้นที่ใช้งาน ขณะนี้ระดับกลางเร่ิมใช้งานกันมากขึ้นแล้ว
มุ่งเป็น ‘โซลูชัน โพรวายเดอร์’
ธีรยา สุขมาก ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การทำธุรกิจของฟูจิฟิล์มฯ วางตำแหน่งเป็น “ดิจิทัล โซลูชันโพรวายเดอร์” เน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ “สมาร์ต ดิจิทัล บิซิเนส โซลูชัน” รวมถึง “สมาร์ต เวิร์ก อินโนเวชั่น” แบบเต็มตัว เพื่อช่วยลูกค้าลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล
โดยช่องทางการทำตลาดมีทั้งที่ทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์และเข้าไปหาลูกค้าเอง ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา และเป็นพันธมิตรที่ช่วยลูกค้าทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ด้านการตลาดเน้นการสร้างแบรนด์ การเข้าถึงลูกค้า และขยายตลาดโซลูชันสำหรับธุรกิจให้ครอบคลุม
“เรามุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ปีนี้เน้นที่การสร้างแบรนด์ให้ชัดเจนมากขึ้น ด้วยแนวทางการตลาดที่หลากหลายและจะใช้งบประมาณการตลาดอย่างเต็มที่เพื่อปูทางสู่เป้าหมายที่ต้องการเป็นผู้เล่นหลักในตลาดโซลูชันสำหรับธุรกิจให้ได้”
ปัจจุบัน ธุรกิจของฟูจิฟิล์มแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักคือ บิซิเนสอินโนเวชั่น 39% เฮลธ์แคร์ 33% อิมเมจจิ้ง 15.9% และอุปกรณ์สำนักงาน 12.1% รายได้หลักมาจากผลิตภัณฑ์บิซิเนสโซลูชัน พรินเตอร์ มัลติฟังก์ชัน และเครื่องพิมพ์สำหรับธุรกิจโรงพิมพ์
โดยภาพรวมกลุ่มบิซิเนสอินโนเวชั่น ซึ่งรวมทั้งฮาร์ดแวร์ โซลูชัน และเซอร์วิส ทำสัดส่วนมากที่สุดกว่า 40% และปีนี้หวังว่าจะเติบโตได้มากกว่า 3.2% หรือมากกว่าการเติบโตของจีดีพี
ไทยติดท็อป 3 เอเชียแปซิฟิก
ฟูจิฟิล์มฯ หวังสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจบิซิเนสโซลูชันได้มากกว่าการเติบโตของตลาด โดยตั้งเป้าไว้ที่ 13.8% (ซอฟต์แวร์ + อุปกรณ์ไอที) ขณะเดียวกันเพิ่มสัดส่วนรายได้ไปให้ถึง 29% จากเดิมมีอยู่ราว 22% ที่สำคัญทำให้ลูกค้าพึงพอใจกับโซลูชันสำหรับการทำงานที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการทำงานซึ่งตอบโจทย์คนยุคดิจิทัล
บริษัทต้องการเข้าไปช่วยลูกค้ารับมือกับความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานเพื่ออนาคต โดยปัจจัยที่จะทำให้การเติบโตเป็นไปได้ถึงสองดิจิตจะมาจากการสร้างความแข็งแรงให้กับทีมขาย การรักษาฐานลูกค้าเดิม ความแข็งแรงและครอบคลุมของพอร์ตโฟลิโอ ความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและระดับโกลบอล ความเข้าใจในตลาด การทำตลาดที่ตอบโจทย์ธุรกิจทุกกลุ่ม รวมถึงความเชื่อมั่นในแบรนด์
พร้อมกันนี้ มีการโฟกัสลูกค้าที่ชัดเจนมากขึ้นใน 6 กลุ่มคือ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง ประกันภัน สินเชื่อ และอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮไลต์คือ “FUJIFILM IWpro” คลาวด์โซลูชันแบบครบวงจรที่มีความปลอดภัยทางข้อมูลสูง ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานรูปแบบเดิมของพนักงานที่ต้องทำงานเอกสารต่างๆ ด้วยกระดาษให้เปลี่ยนเป็นการทำงานในรูปแบบดิจิทัล
ปัจจุบัน ไทยติดอันดับท็อป 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นตลาดที่มีศักยภาพ จากปัจจัยที่ภาคธุรกิจมีการลงทุนเพื่อทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลต่อเนื่อง ทั้งมีปัจจัยบวกที่เอสเอ็มอีเติบโต รวมถึงการวางไดเรคชั่นที่ชัดเจนของบริษัทซึ่งทำให้ธุรกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เฉพาะในไทยมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ตลาดเครื่องพิมพ์ A4, A3, และเครื่องพิมพ์โปรดักชั่น