TikTok เปิดศูนย์-คู่มือความปลอดภัย พร้อมฟีเจอร์ควบคุมเนื้อหาอัตโนมัติ
TikTok ปรับโฉมฟีเจอร์ Family Pairing ให้พ่อแม่คุมเวลา-เนื้อหาลูกแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งเปิดตัวคู่มือ Guardian's Guide และศูนย์ Teen Safety Center ที่ช่วยยกระดับความปลอดภัย ปกป้องผู้ใช้วัยทีน
ท่ามกลางความกังวลของผู้ปกครองทั่วประเทศต่อภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มความซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งออนไลน์ การล่อลวง หรือการเข้าถึงเนื้อหาไม่เหมาะสม
TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่มีผู้ใช้งานหลักเป็นเยาวชน ประกาศยกระดับมาตรการปกป้องผู้ใช้งานชาวไทย ผ่านการเปิดตัว “Guardian's Guide” และ “Teen Safety Center” ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด ในงาน Thailand Safety Summit 2024 สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัวไทย
สิริประภา วีระไชยสิงห์ Outreach and Partnerships Lead, Trust and Safety ของ TikTok กล่าวว่า ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น หัวใจสำคัญของการอัปเดตครั้งนี้คือฟีเจอร์ “Family Pairing” ที่พัฒนาร่วมกับ Family Online Safety Institute (FOSI) ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมเนื้อหาที่เยาวชนเข้าถึงได้ผ่านการกำหนดคีย์เวิร์ด และตั้งเวลาการใช้งานรายวัน โดยมีคำแนะนำจากโรงพยาบาลเด็กบอสตันให้กำหนดเวลาเริ่มต้นที่ 60 นาที
นอกจากนี้ยังมีระบบ “Content Levels” สามารถตรวจจับและกำหนดความเหมาะสมของเนื้อหาตามอายุผู้ชมโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อายุ 13-17 ปี เข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
โดยกรุงเทพธุรกิจ สรุปไฮไลท์สำคัญของการพัฒนาครั้งนี้ ได้แก่
Family Pairing ฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ปกครอง:
- ผู้ปกครองสามารถกำหนดคีย์เวิร์ดเพื่อกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
- ตั้งเวลาการใช้งานรายวัน แนะนำที่ 60 นาที
- เมื่อครบเวลา ระบบจะขอรหัสผ่านเพื่อใช้งานต่อ
ระบบความปลอดภัยของคอนเทนต์:
- ระบบ Content Levels ตรวจจับและกำหนดความเหมาะสมตามอายุโดยอัตโนมัติ
- ป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่สำหรับผู้ใช้อายุ 13-17 ปี
จากรายงาน Transparency Report ล่าสุดในเดือนกันยายน 2567 พบว่า TikTok สามารถลบวิดีโอที่ละเมิดกฎได้โดยอัตโนมัติถึง 80% เพิ่มขึ้นจาก 62% ในปีที่ผ่านมา และมีอัตราการตรวจจับสูงถึง 98.2% ก่อนมีการรายงานจากผู้ใช้
สำหรับประเทศไทย มีการลบวิดีโอที่ละเมิดกฎกว่า 2.8 ล้านวิดีโอ ด้วยอัตราการตรวจพบเชิงรุก 99.3% และสามารถดำเนินการลบเนื้อหาที่ละเมิดกฎได้ 93.1% ภายใน 24 ชั่วโมง
“การสร้างความปลอดภัยทางดิจิทัล ต้องเริ่มจากการให้ความรู้ที่เหมาะสมและให้เครื่องมือแก่ครอบครัว” ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าว สะท้อนถึงความสำคัญของการร่วมมือระหว่าง TikTok กับองค์กรไม่แสวงผลกำไรกว่า 60 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ด้าน ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น และสมาชิก TikTok Safety Advisory Councils เน้นย้ำว่าความร่วมมือนี้ไม่เพียงแก้ปัญหาปัจจุบัน แต่ยังเตรียมพร้อมรับมือความท้าทายในอนาคต เพื่อสร้างพื้นที่ออนไลน์ที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับเยาวชน
ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วน ทั้งจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันพัฒนาแนวทางการสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกออนไลน์
โดย TikTok ยืนยันว่าจะยังคงพัฒนาและลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัยทางดิจิทัลบนโลกโซเชียลมีเดีย พร้อมเชิญชวนผู้ใช้งานเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือและแนวทางด้านความปลอดภัยได้ที่ TikTok Safety Center