เปิด 10 แนวโน้มเทคโนโลยี ‘Gen AI’ ปี 2025
ปีที่ผ่านมา วิวัฒนาการของ AI โดยเฉพาะ Generative AI ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดและน่าประทับใจ และบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต่างก็เร่งพัฒนาโมเดล AI ใหม่ๆ ออกมาแข่งกัน จนผู้ใช้เองก็ปรับตัวไม่ทัน
ในช่วงปีที่ผ่านมา วิวัฒนาการของ AI โดยเฉพาะ Generative AI ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดและน่าประทับใจ และบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต่างก็เร่งพัฒนาโมเดล AI ใหม่ๆ ออกมาแข่งกัน จนผู้ใช้เองก็ปรับตัวไม่ทัน
พัฒนาการของโมเดล AI ต่างๆ ที่ออกมาทำให้เราสามารถใช้ในการเขียนบทความต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นจนเริ่มแยกแยะได้ยากว่าเนื้อหาเขียนด้วย AI หรือคน แม้แต่ภาษาไทยก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการเขียนโปรแกรมก็พบว่าโมเดลต่างๆ มีความสามารถมากขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ จนทำได้ดีกว่าโปรแกรมเมอร์ระดับพื้นฐาน
นอกจากนี้ เมื่อต้นปีที่เรายังเห็นโมเดลเหล่านี้มีความสามารถได้เพียงแค่เรื่องของการสร้างเนื้อหาเป็นภาษาต่างๆ หรือรูปภาพ ก็กลายเป็นว่ากลางปีเราเริ่มเห็นความสามารถของโมเดลอย่าง ChatGPT ที่เริ่มพูดคุยกับเราได้เป็นภาษาไทย
แม้ช่วงแรกๆ สำเนียงอาจจะเสมือนคนต่างชาติพูดภาษาไทย แต่หลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือนเขาก็สามารถสนทนากับเราเป็นภาษาไทยได้อย่างปกติ และโต้ตอบเสมือนคนทั่วไปคุยกัน
ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีโมเดล AI ใหม่อย่าง Sora ที่สามารถสร้างภาพวิดีโอเสมือนจริง รวมถึงการที่โมเดล AI ต่างๆ อย่าง ChatGPT หรือ Gemini มีฟังก์ชันให้ใช้กล้องบนโทรศัพท์มือถือวิเคราะห์ภาพต่างๆ แบบเรียลไทม์พร้อมการสนทนากับเรา ตอบคำถามในสิ่งที่เขามองเห็นได้ ผมได้ทดลองกับภาพกระดานหมากรุกสากลแล้วขอคำแนะนำในการเล่น AI ก็สามารถที่จะตอบได้ดีในระดับหนึ่ง
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต่างๆ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโมเดล AI อย่างต่อเนื่อง และในปีหน้าคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน เช่น การใช้ AI ช่วยวางแผนการทำงานที่ซับซ้อนในองค์กร การทำงานร่วมกับเครื่องมือ AI ต่างๆ และการนำ AI มาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การพัฒนาผู้ช่วยเสมือนที่สามารถตอบสนองคำสั่งได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มของ Generative AI ในปีหน้า ผมเลือกที่จะทดลองใช้โมเดล Gemini Advanced Pro 1.5 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุด มีความสามารถในการค้นคว้าและสรุปข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Gemini ก็ได้ทำการค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ แล้วทำการคาดการณ์พัฒนาการเทคโนโลยีด้าน Generative AIสำหรับปี 2025 โดยประกอบไปด้วย 10 ด้าน ดังนี้
1. Edge AI: Generative AI จะถูกผสานรวมเข้ากับการประมวลผลที่ปลายทาง (Edge Computing) มากขึ้น ทำให้อุปกรณ์อย่างกล้องอัจฉริยะและเซ็นเซอร์ต่างๆ สามารถจัดการงานที่ซับซ้อนภายในอุปกรณ์ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ การผลิต การค้าปลีก และยานยนต์
2. AI as a service (AIaaS) models: ธุรกิจต่างๆ กำลังนำบริการ AIaaS บน Cloud computing มาใช้มากขึ้นเพื่อเข้าถึงศักยภาพ AI ขั้นสูงโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก
3. การผสานกับโลกเสมือนและความเป็นจริงเสริม (AR/VR): คาดว่าแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI จะผสานเข้ากับเทคโนโลยี AR/VR เพื่อเพิ่มความสมจริงและสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
4. Multimodal AI models: Generative AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการจัดการรูปแบบอินพุตและเอาต์พุตหลายแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ ทำให้เครื่องมือ AI มีความหลากหลายมากขึ้น
5. การสร้างข้อมูลสังเคราะห์ (Synthetic Data Generation): การใช้ Generative AI เพื่อสร้างข้อมูลสังเคราะห์จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในระบบที่ข้อมูลจริงมีราคาแพง หาได้ยาก หรือถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว การใช้ข้อมูลสังเคราะห์ในการสร้างโมเดลจะช่วยให้องค์กรสามารถจำลองสภาพแวดล้อมและค้นหาโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีกฎระเบียบเข้มงวด อีกทั้งยังช่วยในการสร้างต้นแบบซอฟต์แวร์และประสบการณ์ดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว
6. การใช้งานแบบเรียลไทม์ (Real-time Applications): เครื่องมือ Generative AI มีความสามารถมากขึ้นในการจัดการแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ เช่น การสร้างเนื้อหาในระหว่างการสนทนาสด และการสร้างภาพที่ปรับแต่งได้ทันที
7. AI Modeling as a Service (AIMaaS): AIMaaS คาดว่าจะเติบโตอย่างมาก โดยมีผู้ให้บริการ AI เสนอโมเดลแบบเปิดและปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้หลากหลายประเภท
8. การประยุกต์ในด้านเสียง (Applications in Audio): Generative AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกสร้างสรรค์โดยการสร้างงานศิลปะ งานประพันธ์ดนตรี มีการนำมาใช้ในการสังเคราะห์เสียง การสร้างดนตรีตามความต้องการ
9. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development): Generative AI จะช่วยให้องค์กรสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น เช่น ยาใหม่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปลอดภัยกว่า รสชาติและกลิ่นใหม่ๆ โลหะผสมใหม่ และการวินิจฉัยโรคที่เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
10. การประยุกต์ในด้านวิดีโอ (Video Applications): Generative AI ถูกนำไปใช้ในแอปพลิเคชันวิดีโอหลากหลาย เช่น การตัดต่อวิดีโอ เทคนิคพิเศษ การพัฒนาโลกเสมือน และการประชุมผ่านวิดีโอ ตัวอย่างเช่น สามารถช่วยในการทำให้ภาพดูอ่อนวัยหรือสูงวัย สร้างเอฟเฟกต์เสมือน และการซิงค์ปากหรือพากย์เสียงในกระบวนการหลังการผลิตวิดีโอ
การคาดการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Generative AI ที่จะมีการพัฒนาให้มีความสามารถยิ่งขึ้นในหลากหลายด้าน การที่ AI มีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันจะทำให้ผู้คนและองค์กรต่างๆ ต้องปรับตัวอย่างมาก พร้อมทั้งสร้างโอกาสใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้คนทำงานได้ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว