เกาหลีใต้บุกตลาดชิป ‘Rebellions - Sapeon’ ควบรวมกิจการ ท้าชน Nvidia
สตาร์ตอัปเกาหลีใต้ Rebellions และ Sapeon จับมือสร้างบริษัทชิป AI Fabless ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ หวังครองผู้นำ พร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2 - 3 ปี
ท่ามกลางตลาดชิปที่กำลังเบียดเสียด Rebellions และ Sapeon สองสตาร์ตอัปพัฒนาชิป AI แบบ Fabless ชั้นนำของเกาหลีใต้ ได้ประกาศควบรวมกิจการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (12 มิ.ย.67) โดยมองว่าช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเป็น “ช่วงเวลาทองคำ” สำหรับเกาหลีที่จะเอาชนะตลาดชิปโลก
การควบรวมกิจการเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่หวังครองตลาดชิป AI แบบ Fabless ในเกาหลีใต้ เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Nvidia โดยจะมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนา การออกแบบ และการทำการตลาดของชิป
ทางบริษัท คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้า มีทีมบริหารจาก Rebelions เป็นผู้นำทัพ รวมพนักงานทั้งสองแห่งกว่า 230 คน SK Telecom และ KT ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของเกาหลี รวมถึง SK Hynix ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทใหม่นี้
การที่มีบรรดายักษ์ใหญ่เหล่านี้ร่วมเป็นเจ้าของ จะทำให้สตาร์ตอัปที่ควบรวมกิจการมีฐานะทางการเงิน เงินทุน และกำลังคนที่แข็งแกร่งพอท้าชิงส่วนแบ่งการตลาดชิป AI ที่ตอนนี้ Nvidia ครองอยู่ถึงกว่า 97%
ดังนั้น พวกเขาจึงตั้งเป้าที่จะดึงส่วนแบ่งทางการตลาดกลับคืนมาจากผู้นำอย่าง Nvidia โดยอาศัยการสนับสนุนจากบรรดายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเกาหลี
ณ ตอนนี้ Nvidia เป็นผู้นำตลาดชิป AI เฉพาะทางทั่วโลก เหตุผลสำคัญคือ Nvidia เป็นบริษัทแรกๆ ที่เข้าสู่ตลาดบริการศูนย์ข้อมูล (Data Center) และซอฟต์แวร์ เพื่อช่วยเหลือบริษัทอื่นๆ ในการสร้างโมเดลภาษาขนาดใหญ่และพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ทำให้ Nvidia เป็นผู้นำ และมีความได้เปรียบคู่แข่งรายอื่นไปก่อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทรายใหม่ๆ เช่น Rebellions และ Sapeon ก็ยังมีโอกาสเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดได้ เนื่องจากต้นทุนอย่างระบบคลาวด์ และชิปนั้นมีราคาสูงขึ้นตามความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น และความพร้อมของชิปที่มีอยู่จำกัด
ประกอบกับบริษัท AI หลายแห่งกำลังพยายามลดการพึ่งพาฮาร์ดแวร์ของ Nvidia ฉะนั้น หากบริษัทรายใหม่เหล่านี้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็ยังสามารถเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดที่ Nvidia ครองอยู่ได้
อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนที่แล้ว Apple ระบุว่าจะใช้ชิปของตนเองเพื่อพัฒนา AI ที่ศูนย์ข้อมูล ในขณะที่บริษัทอื่นๆ เช่น Google, Amazon และ Microsoft กำลังสร้างฮาร์ดแวร์ของตนเองสำหรับแอปพลิเคชัน AI ด้วยเช่นกัน
อีกทั้ง Intel, AMD, Google, Meta, ARM, Broadcom และอื่นๆ ได้รวมตัวกันเพื่อพัฒนามาตรฐานการเชื่อมต่อชิปเร่งประสิทธิภาพ AI ที่ใช้ในเซิร์ฟเวอร์ โดยเป็นการเคลื่อนไหวที่ตรงข้ามกับ Nvidia ซึ่งมีกลไกการเชื่อมต่อ GPU ในเซิร์ฟเวอร์เป็นของตนเอง
ตลาดชิป AI กำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ หลังบรรดายักษ์ใหญ่เทคโนโลยีระดับโลกเริ่มพัฒนาฮาร์ดแวร์ของตนเองเพื่อลดการพึ่งพิง Nvidia การรวมกำลังครั้งนี้ของสองบริษัทเกาหลีจึงเป็นการขยายศักยภาพให้สามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมได้มากขึ้น
อ้างอิง: TechCrunch
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์