Fano.ai บริษัทเทคฯ ฮ่องกงที่ใช้ AI จับเสียง Clone Voice ลดเสี่ยงมิจฉาชีพภาคการเงิน

Fano.ai บริษัทเทคฯ ฮ่องกงที่ใช้ AI จับเสียง Clone Voice ลดเสี่ยงมิจฉาชีพภาคการเงิน

"กรุงเทพธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "คีธ โชว" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ของ Fano.ai บริษัทเทคฯ ฮ่องกงที่ใช้ AI จับเสียง Clone Voice ลดเสี่ยงมิจฉาชีพภาคการเงิน ซึ่งเตรียมมาไทยปีหน้า

เป็นที่ทราบกันดีว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในด้านต่างๆ อย่างมาก บริษัท Fano.ai คือหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีเสียงและภาษาที่กำลังมุ่งใช้เอไอเพื่อแก้ปัญหาการปลอมแปลงเสียงและความปลอดภัยด้านการยืนยันตัวตน

คีธ โชว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ของ Fano.ai ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ในมหกรรม Hong Kong Fintech Week 2024 ณ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ถึงความท้าทายในอุตสาหกรรม และแผนการขยายธุรกิจสู่ตลาดในภูมิภาคต่างๆ

ทั้งนี้ Fano.ai ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 โดยผู้ก่อตั้งที่มีพื้นฐานด้านการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง คีธเล่าว่า "เราเป็นบริษัทด้านเสียงและภาษาปัญญาประดิษฐ์ ที่มุ่งเน้นการแปลงเสียงเป็นข้อมูลเชิงบริบท ไม่ว่าจะเป็นภาษา อารมณ์ หรือความตั้งใจ เราสามารถแปลงทั้งหมดเป็นข้อมูลเชิงบริบทในรูปแบบข้อความ ซึ่งเป็นธุรกิจพื้นฐานของเรา"

Fano.ai บริษัทเทคฯ ฮ่องกงที่ใช้ AI จับเสียง Clone Voice ลดเสี่ยงมิจฉาชีพภาคการเงิน

ธุรกิจหลักของ Fano.ai คือการตรวจสอบและตรวจจับเสียงที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีเอไอ หรือ "Clone Voice" ซึ่งกำลังเป็นประเด็นท้าทายใหม่ในวงการ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจการเงิน "ที่ผ่านมาธุรกิจจำนวนมากให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ของเราอย่างมาก เพราะมันเข้ามาแก้ปัญหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงด้วยการสร้างเสียงเทียมที่หูมนุษย์ปกติอาจไม่สามารถแยกแยะได้"

คีธอธิบายให้ฟังว่า Fano.ai มีเทคโนโลยีที่สามารถตรวจสอบว่าเสียงที่ได้รับนั้นเป็นเสียงจริงของบุคคลหรือเป็นเสียงเทียมที่สร้างขึ้นด้วยเอไอ โดยจะมีการสร้าง "DNA เสียง" ของผู้ใช้งานจากบันทึกเสียงในอดีต และใช้เปรียบเทียบกับเสียงในปัจจุบันเพื่อยืนยันตัวตน "อย่างไรก็ตาม ถ้าเราไม่มีบันทึกเสียงของคุณในระบบ เรายังสามารถระบุได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงเทียมหรือไม่"

นอกจากการใช้งานในภาคการเงินการธนาคาร (เช่น HSBC) Fano.ai ยังมีลูกค้าในภาครัฐ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ใช้เทคโนโลยีของเทคโนโลยีของบริษัทฯ ในการสรุปบันทึกประจำวันแทนการพิมพ์ด้วยตัวเอง

Fano.ai บริษัทเทคฯ ฮ่องกงที่ใช้ AI จับเสียง Clone Voice ลดเสี่ยงมิจฉาชีพภาคการเงิน

ในปัจจุบัน Fano.ai มีมูลค่าบริษัทประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสำนักงานในสิงคโปร์และในภูมิภาคเอเชีย โดยตลาดต่อไปที่บริษัทมุ่งมั่นจะขยายธุรกิจคือประเทศไทย

เขาให้ความเห็นว่า "ไทยเป็นตลาดเป้าหมายต่อไปของเรา เนื่องจากเป็นประเทศที่กำลังเผชิญกับแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีปลอมแปลงเสียงควบคู่ไปกับความต้องการด้านการยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัยมากขึ้น"

 

บริษัทคาดว่าจะเข้าสู่ตลาดไทยในปี 2025 โดยนอกจากจะตั้งสำนักงานแล้ว ยังกำลังสำรวจหาพันธมิตรและหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทยเพื่อสร้างเครือข่ายและผลักดันเทคโนโลยีของ Fano.aiให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

"เราจะต้องมีคนในพื้นที่ช่วยเราทำความเข้าใจตลาดท้องถิ่นและความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยให้ดีขึ้น" คีธกล่าว

ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการประมวลผลเสียงและภาษาที่ล้ำหน้า Fano.ai มุ่งไปสู่การเป็นผู้นำด้านการทวงคืนความปลอดภัยในการยืนยันตัวตนผ่านเสียงในอนาคต และคาดว่าจะสามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดไทยได้ในอนาคต