'อาเซียน-อียู'ร่วมรักษ์โลก แข่ง'Bike4Ride'

'อาเซียน-อียู'ร่วมรักษ์โลก แข่ง'Bike4Ride'

ธงสัญลักษณ์ “Bike4Ride” โบกสะบัดให้สัญญาณเริ่มต้นการแข่งขันปั่นจักรยานแสดงพลังรักษาสิ่งแวดล้อมระดับภูมิภาคระหว่างอาเซียน-อียูเริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปี ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน

“ลิม จ๊อก ฮอย” เลขาธิการอาเซียน กล่าวเปิดงานว่า กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงเป็นจุดเริ่มต้นเชิงสัญลักษณ์แสดงพลังระหว่างอาเซียนและอียู ในการปั่นจักรยานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน แต่ยังเป็นความพยายามส่งเสริมให้ผู้คนจำนวนมากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสัญจรมาใช้ระบบคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืนมากขึ้น 

เลขาธิการอาเซียนพร้อมด้วย “อีกอร์ ดรีมันส์”  เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป (อียู) ประจำอาเซียน นำขบวนประชาชนชาวอินโดนีเซีย และต่างชาติ ร่วมกันปั่นจักรยานภายใต้โครงการ “Bike4Ride” ในกรุงจาการ์ตา เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปี ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างอาเซียน - อียู
 

รู้หรือไม่ ในประชากรอาเซียนประมาณ 650 ล้านคนนั้น มีประชาชนราว 300 ล้านคนอาศัยอยู่ในเมือง ในจำนวนนี้ มี 25% อาศัยอยู่ในเมืองที่มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน ในอีก 15 ปีข้างหน้า หลายเมืองในภูมิภาคอาเซียนจะเป็นเมืองขยายที่มีประชากรมากถึง 100 ล้านคน 

สหภาพยุโรป มอบงบประมาณ 5.1 ล้านยูโร สนับสนุนโครงการ Smart Green ASEAN Cities (SGAC) ในปี 2566 - 2567 เพื่อช่วยประเทศสมาชิกอาเซียนค้นหาโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชาญฉลาด ในการก้าวไปสู่เมืองที่ใช้เทคโนโลยีและมีความเป็นดิจิทัล ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

"ดรีมันส์" กล่าวว่า เมืองต้องเติบโตไปพร้อมๆกับเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นองค์ประกอบความเป็นเมืองที่สำคัญ และยังเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรปกับอาเซียน ซึ่งโครงการ Bike4Ride ไม่เพียงแต่เฉลิมฉลองความสัมพันธ์อาเซียน - อียู ในโอกาสครบรอบ 45 ปีเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการสานต่อการทำงานเพื่อสร้างอนาคต 2 ภูมิภาคสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย 

"อาเซียนและอียูต่างทำงานกันอย่างหนัก เพื่อจัดการกับความท้าทายและสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประชาชนทั้งสองภูมิภาค ซึ่งการจัดแข่งขันปั่นจักรยานครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายให้ประชาชนของเราใช้ประโยชน์จากจักรยาน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับสัญจรที่ปล่อยคาร์บอนน้อย แล้วเส้นชัยก็เปรียบเหมือนการบรรลุความสำเร็จในการสร้างอนาคตสีเขียว" เอกอัครราชทูตอียู ประจำอาเซียนกล่าว

“อลิซาเบธ ที.เต” เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฟิลปปินส์ ประจำอาเซียน ซึ่งในฐานะที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศผู้ประสานงานอาเซียน-อียูปีนี้ กล่าวว่า การจัดการสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในวาระที่ฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ จึงมุ่งมั่นร่วมมือดำเนินงานด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน โดยกิจกรรมในวันนี้่จะเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ 

ทูตที.เต ให้ข้อคิดไว้ว่า แม้ว่า การใช้จักรยาน การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และทางเลือกสัญจรเพื่อลดคาร์บอนอื่นๆ ยังมีสัดส่วนไม่สูงมาก แต่ถ้าค่อยๆเริ่มต้นทำจนเป็นกิจวัตรประจำวัน ก็จะช่วยลดมลพิษทางอากาศได้มากและเชื่อว่าถ้าประชาชนอาเซียนกว่า 650 ล้านคนเริ่มลงมือทำเสียแต่วันนี้ ก็จะเห็นผลในไม่ช้า