ซูเปอร์ไต้ฝุ่น'โนรู'พัดขึ้นฝั่งกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์
ซูเปอร์ไต้ฝุ่น'โนรู'พัดขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ช่วงเย็นวันอาทิตย์(25ก.ย.) ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบนเกาะลูซอน ที่เป็นเกาะหลัก และมีประชากรอาศัยหนาแน่น หน่วยราชการและโรงเรียนต้องปิดในวันจันทร์(26ก.ย.)
พายุ “โนรู” ที่มีความเร็วลมสูงสุด 195 กม./ชม. พัดขึ้นฝั่งที่เกาะโพลิลโล ที่เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเกซอนบนเกาะลูซอนเมื่อเวลา 17.30 น. ของวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น โดยเป็นพายุรุนแรงที่สุดเท่าที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ และความเร็วลมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 90 กม./ชม. ภายในเวลา 24 ชม. ในช่วงเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฟิลิปปินส์ ซึ่งนักพยากรณ์อากาศ บอกว่า รวดเร็วมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
พยากรณ์อากาศประกาศเตือนภัยกระแสลมแรงระดับ 5 ทั่วเกาะลูซอน ซึ่งเป็นระดับเตือนภัยสูงที่สุด และหมายความว่า พายุ “โนรู” ถูกจัดอยู่ในระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่น นอกจากนี้ยังเตือนว่า พายุอาจทำให้เกิดสตอร์มเสิร์จสูงกว่า 3 เมตร ตลอดชายฝั่งของจังหวัดเกซอน และจังหวัดออโรรา รวมทั้งอาจเกิดน้ำท่วมและดินถล่มในบริเวณกว้างเนื่องจากพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนัก
ทำเนียบมาลากันยัง เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ อนุมัติให้หน่วยราชการและสถานศึกษาปิดทำการในหลายพื้นที่ในวันจันทร์(26ก.ย.) สืบเนื่องจากพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่น “โนรู”
ด้านพลเอก โรโดลโฟ อาซูริน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ประชาชนที่อาศัยในเขตอันตรายปฏิบัติตามข้อเรียกร้องให้อพยพออกจากบ้านเรือนเมื่อจำเป็น
สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติจังหวัดเกซอน เปิดเผยว่า ก่อนพายุขึ้นฝั่ง ชาวบ้านในบางเขตของเกซอนได้รับการอพยพออกจากบ้านเรือน และชาวบ้านในบางเขตของจังหวัดออโรรา ที่อยุ่ใกล้เคียงต้องอพยพด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ จุดที่พายุพัดขึ้นฝั่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 100 กม./ชม. หน่วยฉุกเฉินได้เตรียมพร้อมรับมือกับลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก ที่อาจส่งผลต่อเมืองหลวงที่มีประชากรอาศัยมากกว่า 13 ล้านคน และมีการบังคับอพยพประชาชนในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในมะนิลาแล้ว
หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า มีผู้โดยสารกว่า 2,500 คนติดค้างอยู่ตามท่าเรือหลายแห่งเนื่องจากเรือข้ามฟากต้องงดออกจากฝั่งช่วงก่อนพายุเข้า เที่ยวบินหลายสิบเที่ยวที่เข้าออกกรุงมะนลาถูกยกเลิก
พยากรณ์อากาศ คาดว่า พายุจะอ่อนกำลังเป็นระดับไต้ฝุ่นเมื่อเคลื่อนตัวไปทั่วตอนกลางของเกาะลูซอน ก่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันจันทร์ และมุ่งหน้าไปยังเวียดนาม
พายุ “โนรู” เป็นพายุลูกที่ 11 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในปีนี้ และก่อนหน้านี้ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ราอี” พัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ทำให้ประชาชนเสียชีวิตกว่า 400 ราย และอีกหลายแสนคนไร้ที่อยู่อาศัย