‘บิล เกตส์’ บันทึกตอนก่อนมาอินเดีย | ไสว บุญมา

คงทราบกันดีแล้วว่า บิล เกตส์ เกษียณตัวเองเมื่ออายุไม่ถึง 60 ปีจากบริษัทไมโครซอฟท์ เพื่ออุทิศเวลาให้แก่งานการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่ทำผ่าน มูลนิธิที่เขาตั้งขึ้นเพื่อทำงานด้านการกุศล Bill&Melinda Gates Foundation และประกาศว่าจะบริจาคทรัพย์สินกองมหาศาลของเขาเกือบทั้งหมดเพื่องานนี้

บิล เกตส์ เป็นนักอ่านตัวยงและศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ครั้งยังทำงานอยู่กับไมโครซอฟท์ หลังเกษียณ เขาใช้เวลาศึกษาหาความรู้เข้มข้นขึ้นอีก เมื่อตกผลึกเรื่องใด หรือเมื่อมีข้อคิดใหม่ เขามักนำมาเผยแพร่ผ่านบันทึกในชื่อ The Gates Notes

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเผยแพร่บันทึกเกี่ยวกับอินเดียซึ่งแยกได้เป็น 2 ส่วนคือ ส่วนหลักเกี่ยวกับความก้าวหน้าของอินเดียและส่วนที่แนบมาซึ่งเป็นบทความที่เขาเผยแพร่ในสื่อของอินเดียมาก่อนแล้ว

บิล เกตส์พูดถึงความก้าวหน้าของอินเดีย 5 ด้านผ่านแผนภูมิ แผนภูมิแรกแสดงให้เห็นสัดส่วนของเด็กที่ได้รับวัคซีนต่อต้านโรคคอตีบ บาดทะยักและไอกรน ซึ่งเพิ่มจาก 38% เมื่อปี 2543 เป็น 85% เมื่อปี 2564 พร้อมกับข้อมูลในช่วงเวลาเดียวกันที่แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจาก 3 โรคนี้ลดลงถึง 75%

แผนภูมิ 2 แสดงให้เห็นสัดส่วนของเด็กที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด เข็มที่ 1 จาก 56% ในปี 2543 เพิ่มเป็น 89% ในปี 2564 และเข็มที่ 2 จาก 27% ในปี 2553 เพิ่มเป็น 82% ในปี 2564 ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหัดลดลง 96%

แผนภูมิ 3 แสดงให้เห็นว่า การเสียชีวิตของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบจากโรคท้องร่วง ลดลงเกือบ 80% ในระหว่างปี 2543-2564 และบรรยายว่ามูลนิธิของเขาสนับสนุนรัฐบาลในการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ให้ทั่วถึงยิ่งขึ้น

แผนภูมิ 4 แสดงความคืบหน้าทั้งในด้านการเข้าถึงสถาบันการเงินและการเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง ข้อมูลบ่งว่าเมื่อปี 2554 ชายชาวอินเดีย 44% มีบัญชีธนาคาร

ในขณะที่เพียง 26% ของหญิงมี อีก 10 ปีต่อมาหลังรัฐบาลและหลายฝ่ายรวมทั้งมูลนิธิของบิล เกตส์สนับสนุนการรณรงค์ให้ชาวอินเดียเข้าถึงการบริการของสถาบันการเงิน ทั้งชายและหญิงอินเดีย 78% มีบัญชีธนาคาร

แผนภูมิ 5 แสดงให้เห็นว่าระหว่างปี 2543-2564 สัดส่วนของหญิงอินเดียที่ได้รับการดูแลโดยบุคลากรทางการแพทย์ในระหว่างคลอด เพิ่มจาก 43% เป็น 89% ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตในระหว่างคลอดลดลงจาก 316 มาอยู่ที่ 130 ต่อการคลอดลูก 1 แสนคน หรือลดลง 59%

ส่วนบทความที่เขาเผยแพร่มาก่อน เขาพูดถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศและสุขภาพของชาวโลก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เราต้องใส่ใจในทั้งสองด้านพร้อมๆ กัน เนื่องจากอีกไม่นานอินเดียจะเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในโลก

อินเดียทำอะไรในสองด้านนี้ย่อมมีความยากลำบากมาก จากการมีขนาดใหญ่ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรสูง แต่ความสำเร็จของอินเดียเป็นตัวอย่างอันดีที่แสดงว่า แม้สองด้านนี้ดูจะแสนยากจนเราคงต้องเลือกใส่ใจได้ในด้านเดียว แต่เราสามารถทำไปพร้อมๆ กันได้ถ้าหลายฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง

บิล เกตส์ ยกตัวอย่างเรื่องถั่วชิกพี ซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวอินเดียและทำรายได้ให้แก่เกษตรกรขนาดเล็กทั่วประเทศ อากาศที่ร้อนขึ้นมีผลกระทบร้ายแรงต่อถั่วนี้ ซึ่งมีปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อไปถึงประเด็นด้านความมั่นคงทางอาหาร และการแก้ปัญหาอันเกิดจากความยากจนรวมทั้งด้านสุขภาพ 

หลายฝ่ายได้ร่วมมือกันค้นหาและพัฒนาถั่วสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทนแล้งได้ดีและมีผลผลิตสูงขึ้นถึง 10% แทนที่จะลดลงมากถึง 70% เช่นกรณีของถั่วบางสายพันธุ์ การค้นหาและพัฒนายังดำเนินต่อไปแม้เกษตรกรจะเริ่มปลูกถั่วสายพันธุ์ใหม่นี้แล้วก็ตาม

ความสำเร็จในอินเดียทำให้ บิล เกตส์ มองว่าปัญหาสาหัสของโลกยังแก้ได้โดยการใช้นวัตกรรมและความร่วมมือกันอย่างจริงจังจากหลายฝ่ายรวมทั้งมหาเศรษฐี แต่ในโลกนี้ มีมหาเศรษฐีกี่คนที่สละเวลาและทรัพย์สินตามแนวของบิล เกตส์?