'อินโดนีเซีย' เล็งเสนอค้าแร่เสรี หวังดึงดูดนายทุนอีวีสหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า อินโดนีเซียเตรียมเสนอข้อตกลงการค้าเสรี สำหรับการส่งออกแร่ธาตุบางชนิดให้กับสหรัฐ เพื่อให้บรรดาบริษัทซัพพลายเชนยานยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้าที่ดำเนินธุรกิจในประเทศ ได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีของสหรัฐ
รัฐบาลวอชิงตันประกาศแนวทางใหม่ เพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีภายใต้กฎหมายลดเงินเฟ้อ (ไออาร์เอ) โดยระบุว่า ชิ้นส่วนประกอบแบตเตอรี่ของธุรกิจใดๆ ต้องผลิตหรือประกอบในอเมริกาเหนือ หรือเป็นพาร์ทเนอร์การค้าเสรี ซึ่งกฎดังกล่าว มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สหรัฐลดการพึ่งพาจีนในการพัฒนาซัพพลายเชนแบตเตอรี่
อินโดนีเซียยังไม่มีข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐ แต่แร่นิกเกิลของประเทศได้กลายเป็นแร่สำคัญของซัพพลายเชนแล้ว
เมื่อถามเกี่ยวกับกฎใหม่ของไออาร์เอ “ลูฮูต ปันด์ไจตัน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานกิจการทางทะเลอินโดนีเซีย ที่พยายามดึงดูดบริษัทสหรัฐเข้ามาลงทุนในประเทศ แถลงว่า ประเทศจะเสนอข้อตกลงการค้าเสรีที่มีข้อจำกัด (เอฟทีเอ) ให้กับรัฐบาลวอชิงตัน
“เซปเทียน ฮาริโอ เซโต” ผู้ช่วยของลูฮูต กล่าวว่า ข้อเสนอเอฟทีเอที่ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น มีความคล้ายกับหนึ่งในข้อตกลงการค้าแร่ที่สำคัญที่สหรัฐลงนามกับญี่ปุ่น
สหรัฐ และญี่ปุ่นได้ลงนามข้อตกลงทางการค้าแร่แบตเตอรี่รถยนต์อีวี เมื่อเดือนมี.ค. 66 มีทั้งลิเทียม, นิกเกิล, โคบอลต์, กราไฟต์ และแมงกานีส
อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนก่อน ฟอร์ด ได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัทบราซิลเลียน นิกเกิล ไมเนอร์ เวล สาขาประเทศอินโดนีเซีย และเจ้อเจียง หัวหยู โคบอลต์ มูลค่า 4,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อตั้งโรงงาน HPAL บนเกาะชวาของอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ ลูฮูตให้ตัวแทนชาวอินโดนีเซียเดินทางไปจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อส่งเสริมโอกาสการลงทุน
เซโต ยังเผยด้วยว่า รัฐบาลจะพูดคุยกับบีวายดี บริษัทรถยนต์อีวีของจีนในเดือนพ.ค. เกี่ยวกับศักยภาพในการลงทุน แต่ปฏิเสธเอ่ยถึงการพูดคุยกับเทสลา เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่ไม่สามารถเปิดเผยได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
