‘นิวยอร์ก’ หนี้ผู้บริโภคทะลุ 17 ล้านล้านดอลลาร์ครั้งแรก
หนี้ผู้บริโภคชาวอเมริกันในนครนิวยอร์ก ทำสถิติสูงสุดในไตรมาสแรกของปี 2566 พุ่งทะลุ 17 ล้านล้านดอลลาร์ ท่ามกลางยอดผู้กู้เงินซื้อบ้านลดลงอย่างมาก
เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ธนาคารกลางของนิวยอร์กรายงานในวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.) ยอดรวมการกู้ยืมเงินในทุกประเภทอยู่ที่ 17.05 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 150,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.9% ในช่วงเดือน ม.ค. - มี.ค. ส่งผลให้หนี้รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ จากช่วงก่อนโควิด-19
ยอดหนี้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้น แม้ว่าการจำนอง และไฟแนนซ์บ้านจะมีมูลค่าเพียง 3.23 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 ถึง 35% และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 62%
ส่วนสินเชื่อบ้านใหม่พุ่งสูงสุดที่ 1.22 ล้านล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 และลดต่อเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลายครั้งได้ช่วยผลักดันอัตราการจำนอง 30 ปีให้อยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 2.65% ในเดือนม.ค. 2564
แต่ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 6.4% เนื่องจากธนาคารกลางได้ออกกฎหมายขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งรวมเป็น 5 จุดเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ ดังนั้นอัตราที่สูงขึ้นช่วยผลักดันหนี้จำนองทั้งหมดเป็น 12.04 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.1% จากไตรมาสที่ 4
แอนดริว โฮว์เอาท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยนโยบายครัวเรือน และนโยบายสาธารณะของเฟดนิวยอร์ก กล่าวว่า การรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบทอดยาวไปหลายทศวรรษข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ผู้กู้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าในการซื้อบ้านใหม่ และเพื่อรีไฟแนนซ์ ส่งผลให้ยอดธุรกรรมดังกล่าวเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะนี้ดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้ว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์