‘อินเดีย’ มะเขือเทศแพงกว่าน้ำมัน ชี้วัดเงินเฟ้อ อิทธิพลการเมือง เอลนิโญ

ลมมรสุมที่มาช้าปีนี้ ทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่เพาะปลูกบางแห่งเท่านั้น ประกอบกับอุณภูมิร้อนกว่าปกติในเดือนที่แล้ว ยืนยันว่าอินเดียกำลังเผชิญปัญหาอิเอลนิโญ ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรแพงมากขึ้นถึง 5 เท่าในปีนี้ โดยเฉพาะมะเขือเทศ จากเดิมในระหว่างเดือน มิ.ย. - ก.ค.มีผลผลิตลดน้อยอยู่แล้ว แต่ปีนี้ผลกระทบแย่เกินจริงเสียอีก

แล้วในที่สุด ลมมรสุมพัดมายังอินเดีย แต่ล่าช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562

การที่ราคามะเขือเทศและหัวหอมในอินเดียสูงขึ้นมาก อาจนำไปสู่ความไม่พอใจและประชาชนอินเดียออกมาเคลื่อนไหวประท้วง ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านก็ไม่อาจต้านรัฐบาล ปล่อยราคามะเขือเทศและหัวหอมแพงขึ้น 

พืชการเกษตรทั้งสองชนิดนี้เป็นส่วนประกอบหลักๆ ในการทำอาหารอินเดีย จึงส่งผลให้อาหารแพงขึ้นด้วย ท่ามกลางความพยายามของธนาคารกลางอินเดียผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต และควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

ราคาขายปลีกมะเขือเทศในนิวเดลี เมื่อวันพฤหัสบดีอยู่ที่ 120 รูปี หรือ 1.45 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับ 22 รูปี ซึ่งเป็นราคาเมื่อต้นปี 2566 ตามข้อมูลของกระทรวงอาหาร

ในทางตรงกันข้าม น้ำมันราคาขายอยู่ที่ประมาณ 96 รูปีต่อลิตรในนิวเดลี

อัตราเงินเฟ้อ ในกลุ่มอาหารอาจเพิ่มขึ้นเป็น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือน มิ.ย.จาก 3.3% ในเดือน พ.ค. โดย Abhishek Gupta นักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์กกล่าวว่า การประมาณการที่เพิ่มนี้ ขึ้นอยู่กับราคามะเขือเทศ ถั่วพัลส์ และข้าวที่แพงขึ้นอย่างรวดเร็ว 

เว็บไซต์ Hindustan Times รายงานว่า ราคาพืชผลเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นได้สร้างปัญหาอาชญากรรม ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากชาวสวนในรัฐกรณาฏกะว่า มีโจรขโมยมะเขือเทศ 150,000 รูปีอีกด้วย 

ร้านแมคโดนัลด์ในนิวเดลีติดประกาศไว้หน้าร้านว่า มะเขือเทศขาดตลาดชั่วคราว “แม้จะพยายามอย่างดีที่สุด แต่ก็ไม่สามารถจัดหามะเขือเทศผ่านเกณฑ์คุณภาพได้เพียงพอ” 

เว็บไซต์บลูมเบิร์กได้สอบถามเรื่องนี้ไปยังเมคโดนัลด์ในอินเดีย ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในทันที

ขณะที่โซเชียลมีเดียในอินเดียเต็มไปด้วยการแสดงความเห็นต่อราคาสถานการณ์มะเขือเทศแพง 

ผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งมองว่า ราคามะเขือเทศกำลังแข่งขันกับราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล ขณะที่อีกคนหนึ่งกล่าวประชดประชันว่า มะเขือเทศทุกกิโลกรัม แทบจะซื้อไอโฟนได้เลย

นอกจากนี้ ยังมีคนทำยูทูปล้อเลียนนักการเมืองและ ส.ส.จากรัฐมหาราษฏร์ ซึ่งเป็นพื้นที่เสียงของพรรคภารติยะของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ว่าหากนำเงินซื้อนักการเมืองนั้น ก็ได้ราคาที่ถูกกว่าการซื้อมะเขือเทศเสียอีก