รัฐบาลญี่ปุ่นคาด คนหนุ่มสาวเกิดปี 2548 เกือบ 50% ไม่อยากมีลูก

รัฐบาลญี่ปุ่นคาด คนหนุ่มสาวเกิดปี 2548 เกือบ 50% ไม่อยากมีลูก

รายงานคาดการณ์ของรัฐบาลญี่ปุ่น เผยว่า ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่เกิดในปี 2548 มากกว่า 42% จะใช้ชีวิตโดยไม่มีลูก ขณะที่ผู้ชายในวัยเดียวกันไม่อยากมีลูกราว 50% อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบประกันสังคมญี่ปุ่นในอนาคต

สำนักข่าวนิกเคอิ อ้างอิงรายงานสถาบันวิจัยประชากร และความมั่นคงทางสังคมแห่งชาติญี่ปุ่น คาดการณ์ว่าการมีลูกของผู้หญิงที่เกิดในปี 2548 ภายใต้วิกฤติอัตราการเกิดต่ำระดับปานกลาง พบว่า ผู้หญิงกลุ่มดังกล่าว 33.4% จะใช้ชีวิตผ่านวัยเจริญพันธุ์โดยไม่มีลูก ในกรณีที่วิกฤติน้อยที่สุด ผู้หญิงกลุ่มนี้จะไม่มีลูกประมาณ 24.6%

สำหรับผู้ชายที่มีโอกาสตัดสินใจไม่แต่งงานมากกว่าผู้หญิง คาดว่ามีเปอร์เซ็นต์ไม่อยากมีลูกสูงกว่าด้วย โดยพบว่า ชายญี่ปุ่นที่มีอายุ 18 ปี ประมาณ 50% ไม่อยากมีลูก

สัดส่วนของกลุ่มคนไม่อยากมีลูกก็เพิ่มขึ้นในประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ เช่นกัน อาทิ สหรัฐ และยุโรป ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คนรุ่นใหม่หลายคนไม่อยากมีลูก มาจากการเปลี่ยนแปลงของค่านิยม เพราะคนจำนวนมากให้ความสำคัญกับการเติมเต็มชีวิตตนเองมากกว่าการมีลูก โดยผู้หญิง 10-20% ที่เกิดในปี 2513 ของประเทศพัฒนาแล้วข้างต้น ไม่มีลูกเลย

ขณะที่สัดส่วนกลุ่มคนดังกล่าวในญี่ปุ่น ไม่มีลูก 27% และสัดส่วนในญี่ปุ่นอาจมากกว่า 2 เท่าของสัดส่วนชาติตะวันตก (ถ้าสัดส่วนหญิงอเมริกัน และยุโรปที่ไม่มีลูก ยังคงที่ในระดับ 10-20%)

อย่างไรก็ตาม เทรนด์การไม่มีลูกเริ่มลดลงในอังกฤษ สหรัฐ และเยอรมนีแล้ว ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความพยายามสร้างสมดุลระหว่างการทำงาน และการมีครอบครัวในประเทศดังกล่าว ทำให้ผู้คนเลือกมีลูกอย่างน้อย 1 คนมากขึ้น

ญี่ปุ่นก็พยายามสร้างสภาพแวดล้อมให้กับครอบครัวที่อาจมีลูก ด้วยการส่งเสริมมาตรการมากมาย เช่น ปรับระบบการทำงาน แต่คนหนุ่มสาวสนใจแต่งงาน และมีลูกน้อยลง เนื่องจากค่าแรงที่เติบโตช้า และกังวลเกี่ยวกับความไม่มั่นคงในอนาคต

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์