'สหรัฐ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้' เดินหน้าคานอำนาจ'เกาหลีเหนือ-จีน'
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ เห็นพ้องร่วมกับผู้นำชาติพันธมิตร2ประเทศคือ ผู้นำเกาหลีใต้ และผู้นำญี่ปุ่น ร่วมมือกันมากขึ้นในการป้องปรามอิทธิพลของเกาหลีเหนือและจีน รวมทั้งลดการพึ่งพาระบบซัพพลายเชนจากจีน
ประธานาธิบดี ไบเดน เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกับ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยูน ซุก ยอล พร้อมด้วย นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิด ที่บ้านพักประจำตำแหน่งเเคมป์เดวิดเมื่อวันศุกร์(18ส.ค.) เพื่อต้องการสร้างความคืบหน้าด้านยุทธศาสตร์ร่วมกัน เช่น สร้างช่องทางสื่อสารสามฝ่ายเพื่อปรึกษาหารือกันหากเกิดวิกฤตในภูมิภาค
ขณะที่แหล่งข่าววงในที่ใกล้ชิดกับการหารือกันของสามผู้นำ ระบุว่า มีการเเบ่งปันข่าวกรองแก่กันและกัน และวางนโยบายเชิงปฏิบัติให้สอดคล้องกัน โดยการประชุมสุดยอดครั้งนี้ มุ่งสร้างความเข้าใจพื้นฐานว่าสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศใดประเทศหนึ่ง ในกลุ่มสามประเทศนี้คือภัยคุกคามของทุกประเทศ แม้ว่าการให้คำมั่นสัญญานี้ไม่ได้ถือว่าเป็นความตกลงอย่างเป็นทางการร่วมกันทางด้านกลาโหม
ในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมไตรภาคีครั้งนี้ ของประธานาธิบดีไบเดนแห่งสหรัฐ นายกรัฐมนตรีคิชิดะ แห่งญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีแห่งเกาหลีใต้ ผู้นำทั้ง3ประเทศให้คำมั่นว่าจะปรึกษากันอย่างทันท่วงทีในช่วงเกิดวิกฤติ และร่วมมือกันในการตอบสนองต่อความท้าทาย, การยั่วยุ และภัยคุกคามในภูมิภาค ที่อาจส่งผลต่อผลประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนั้น ยังมีความตั้งใจที่จะจัดการฝึกซ้อมทางทหารแบบไตรภาคีเป็นประจำทุกปี และจะแบ่งปันข้อมูลตามเวลาจริงในเรื่องการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือให้ได้ภายในสิ้นปี 2566 นี้ และยังให้คำมั่นว่าจะจัดการประชุมสุดยอดแบบนี้ทุกปี
ทั้ง 3 ประเทศจะเปิดตัวโครงการนำร่องของระบบเตือนภัยล่วงหน้าด้านห่วงโซ่อุปทาน (EWS) เพื่อขยายการแบ่งปันข้อมูลและการต่อสู้กับการขู่กรรโชกทางเศรษฐกิจร่วมกัน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นหนึ่งในความพยายามลดการพึ่งพาจีน โดยเฉพาะญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ที่เศรษฐกิจพึ่งพาการค้ากับจีนอย่างมาก
ด้านรัฐบาลจีนและเกาหลีเหนือ เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าการประชุมที่เเคมป์เดวิดครั้งนี้ เป็นการเดินเกมการเมืองโลกของสหรัฐเพื่อให้เกิด "มินิ-นาโต้" แห่งเอชีย ซึ่งหมายถึงการมีข้อตกลงขนาดเล็กในภูมิภาคในลักษณะที่คล้ายองค์การสนธิสัญญาเเอตเเลนติกเหนือ (นาโต้)