เศรษฐกิจจีนแย่แค่ไหนและอะไรคือคําตอบ | บัณฑิต นิจถาวร
เศรษฐกิจจีนขณะนี้เป็นข่าวทุกวัน เพราะโมเมนตัมการขยายตัวของเศรษฐกิจแผ่วลงมากตั้งแต่ต้นปี รุมเร้าด้วยปัญหาและความอ่อนแอในหลายปัจจัยระดับโครงสร้าง
ล่าสุดตัวเลขมหภาคชี้ว่า เศรษฐกิจจีนชะลอลงทุกด้านและมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด คือราคาสินค้าลดลงต่อเนื่อง คําถามคืออะไรกําลังเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจจีน และทางการจีนควรทําอะไรเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจแย่ไปกว่านี้หรือถดถอยระยะยาว นี้คือประเด็นที่จะเขียนวันนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนล่าสุดไม่ดี อัตราเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมติดลบร้อยละ 0.3 สะท้อนความอ่อนแอของเศรษฐกิจที่กระจายไปทั่ว การใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอ การลงทุนภาคเอกชนติดลบร้อยละ 0.2 ครึ่งปีแรก การส่งออกและนําเข้าลดลง สินเชื่อจากระบบธนาคารพาณิชย์ชะลอ
เงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศลดลง เงินทุนต่างประเทศไหลออก ตลาดหุ้นลดลง เงินหยวนอ่อนค่าลงกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ต้นปี และอัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาวในเขตเมืองเพิ่มเป็นร้อยละ 21.3
ตัวเลขชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกําลังชะลอทุกด้าน และกําลังส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข
ล่าสุดธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.15 เพื่อลดต้นทุนการเงินและอัดฉีดสภาพคล่องซึ่งตลาดการเงินมองว่าไม่เพียงพอ ส่วนมาตรการการคลังที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่มีออกมา
ที่ต้องตระหนักคือปัญหาที่เศรษฐกิจจีนมีขณะนี้ เกือบทั้งหมดสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างที่จะไม่สามารถแก้ได้ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สิ่งที่ต้องทําคือการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขความอ่อนแอที่มีอยู่เพื่อให้เศรษฐกิจจีนสามารถกลับมาขยายตัวได้ต่อเนื่องต่อไป
ภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจที่จีนมีขณะนี้ สะท้อนความอ่อนแอในระบบเศรษฐกิจที่สะสมมาตั้งแต่ก่อนโควิด แต่ถูกพรางไว้ด้วยการระบาดของโควิดและมาตรการรัฐที่เข้ามาคุมเข้มเศรษฐกิจช่วงโควิด แต่หลังโควิดจบ เศรษฐกิจจีนก็ไม่ได้พุ่งทะยานอย่างที่หวัง ทั้งการบริโภคและการลงทุน
ส่วนหนึ่งเพราะการแทรกแซงเศรษฐกิจโดยภาครัฐที่มีมากขึ้นในช่วงโควิด อีกส่วนคือความกังวลที่นักลงทุนและผู้บริโภคมีต่อปัญหาที่เศรษฐกิจจีนมี และยังไม่มีการแก้ไข กระทบความเชื่อมั่น ทําให้ไม่ใช้จ่าย และสร้างโมเมนตัมขาลงให้กับเศรษฐกิจมาถึงปัจจุบัน
ความกังวลเหล่านี้คือ
1.ปัญหาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์เป็นเครื่องมือสำคัญที่รัฐบาลจีนใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปี 1998 ที่รัฐบาลเริ่มอนุญาตให้ประชาชนมีบ้านเป็นของตนเองทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บูมมาก เติบโตต่อเนื่องจนอสังหาฯ กลายเป็นภาคเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ มีสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของจีดีพี
ภาวะบูมของอสังหาฯ ทําให้ทุกฝ่ายรํ่ารวย ตั้งแต่รัฐบาลท้องถิ่นที่ให้บริษัทอสังหาฯเช่าที่ดินรัฐระยะยาวเพื่อสร้างบ้านและคอนโด ตัวบริษัทอสังหาฯเอง สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ และประชาชนที่ราคาบ้านปรับสูงขึ้น เป็นวัฏจักรการเติบโตที่ต่อเนื่องตั้งแต่ปี1998 ถึง 2020 ขับเคลื่อนโดยการก่อหนี้มหาศาลที่บริษัทอสังหาฯกู้จากภาคธนาคารมาทำธุรกิจ
ปี 2021 บริษัทอสังหาฯขนาดใหญ่ เช่น Evergrande ขาดสภาพคล่องมีปัญหาชำระหนี้ ส่งผลกระทบกว้างขวางท้ังเรื่องสภาพคล่องและความเชื่อมั่น เกิดการผิดนัดชำระหนี้ ปัญหาหนี้เสีย บริษัทอสังหาฯจํานวนมากปิดกิจการหรือหยุดโครงการ
ความใหญ่ของธุรกิจอสังหาฯทําให้ระบบเศรษฐกิจทั้งระบบถูกกระทบและปัญหายังไม่หยุด กระทบสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ ธุรกิจอื่นและรัฐบาลท้องถิ่นที่ขาดรายได้ และประชาชนที่เสียหายจากการปิดโครงการและราคาบ้านที่ลดลง
ประเด็นหลังนี้สำคัญเพราะ 70 เปอร์เซ็นต์ของสินทรัพย์ภาคครัวเรือนจีนคือบ้าน สินทรัพย์บ้านที่หายไปและราคาบ้านที่ลดลงกระทบความมั่งคั่ง ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ และความพร้อมของครัวเรือนที่จะใช้จ่าย
2.ปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่น ที่ผ่านมารัฐบาลจีนใช้รัฐบาลท้องถิ่นเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจเช่นกันโดยให้รัฐบาลท้องถิ่นใช้รายได้ที่มีและเงินกู้ยืมมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาท้องถิ่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
สิ้นปีที่แล้วหนี้รัฐบาลท้องถิ่นจีนมีมากถึง 59 ล้านล้านหยวนหรือ 8.25 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นหนี้ที่ต้องชําระคืน รัฐบาลท้องถิ่นจะมีรายได้จากการให้เช่าที่ดินและผลตอบแทนจากโครงการลงทุนมาชำระหนี้
แต่ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซบเซา และ มีโครงการลงทุนจํานวนมากที่ไม่ประสพความสำเร็จ ไม่สามารถหารายได้อย่างที่หวัง สร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลท้องถิ่นในการชำระหนี้ ยิ่งเศรษฐกิจชะลอแรงกดดันยิ่งมาก
ภาระหนี้รัฐบาลท้องถิ่นที่สูงและการที่ทางการจีนยังไม่มีมาตรการแก้ไขชัดเจนกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนในฐานะการคลังของจีน เพราะในที่สุดรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบหนี้รัฐบาลท้องถิ่น อันนี้อาจเป็นเหตุผลทําให้จีนลังเลที่จะใช้รัฐบาลท้องถิ่นแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวที่เกิดขึ้นคราวนี้เหมือนที่ผ่านมา
นี่คือสองเรื่องหลักที่ทําให้ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนขณะนี้อ่อนไหว และโมเมนตัมการใช้จ่ายในประเทศไม่ขยายตัวอย่างที่ควร ซํ้าเติมความอ่อนแอด้านต่างประเทศที่มาจากเศรษฐกิจโลก
ชัดเจนว่าสองปัญหานี้เป็นผลลัพธ์ของโมเดลการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่ใช้การลงทุนของรัฐบาลท้องถิ่นและภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นตัวขับเคลื่อนการใช้จ่ายในประเทศ โดยมีการก่อหนี้เป็นเชื้อเพลิง เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจีนขณะนี้ต้องเริ่มที่นี่
คือแก้ปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่นและปัญหาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยมาตรการเชิงปฏิรูป คือรื้อความสัมพันธ์ต่างๆ ที่เป็นปัญหา เพื่อลดความเสี่ยงที่สองปัญหานี้จะนําเศรษฐกิจจีนไปสู่ภาวะถดถอยระยะยาวหรือเกิดปัญหาเสถียรภาพ เป็นสิ่งที่จีนสามารถทำได้ เพราะความพร้อมทางการเงินที่ประเทศมี ซึ่งจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมา
ที่เราต้องติดตามคือสัญญาณจากภาคทางการจีนว่าจะเริ่มเดินในแนวทางนี้หรือไม่ ในสไตล์ของจีนสัญญาณเหล่านี้จะไม่ปรากฏออกมาตรงๆเช่น ประกาศแผนปฏิรูป แต่จะมาในรูปที่แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงกําลังเกิดขึ้น
เช่น ปรับกฎเกณฑ์หรือระเบียบบางอย่างให้กลไกตลาดมีบทบาทมากขึ้นในการแก้ปัญหา มีความโปร่งใสมากขึ้นในการให้ข้อมูล และมีความชัดเจนในการให้ความเห็นทางสาธารณะของผู้บริหารระดับสูง นี่คือสิ่งที่เราควรต้องติดตาม
คอลัมน์ เศรษฐศาสตร์บัณฑิต
ดร. บัณฑิต นิจถาวร
ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล