เจ้าชายวิลเลียม จ้าง 'ซีอีโอ' บริหาร - จัดการ พระราชวังเคนซิงตัน

ทั้งนี้ ถือเป็นการแหวกประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดมาหลายร้อยปี เมื่อเจ้าชายวิลเลียมกับพระชายาแคทเธอรีน เจ้าชาย และเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่ามีพระประสงค์จะเปลี่ยน สิ่งที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นของราชวงศ์วินด์เซอร์ 

ตำแหน่งซีอีโอที่จะตั้งขึ้นใหม่นี้ นอกจากมีหน้าที่ดูแลข้าราชบริพารในวัง 60 คน แล้ว ยังต้องรายงานขึ้นตรงต่อเจ้าชาย และเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ไม่ต้องผ่านราชเลขาธิการ (private secretaries) ที่ทรงอำนาจอยู่เบื้องหลังความเป็นไปในวังหลวงมายาวนาน 

ผู้เชี่ยวชาญด้านราชวงศ์ให้ความเห็นว่า นี่เป็นการ "ปฏิวัติ" อย่างไม่ต้องสงสัย เป็นการล้มโครงสร้างแบบลำดับชั้นแบบดั้งเดิม ที่เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องรายงานราชเลขาฯ จึงเหมือนโยนแมวเข้าไปในฝูงนกพิราบ ซึ่งจะต้องมาดูว่าจะปั่นป่วนขนาดไหน และที่ต้องจับตาคือ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กับพระราชินีคามิลลา จะเห็นดีเห็นงาม และทำตามด้วยหรือไม่ 

สำนักพระราชวังได้จ้างบริษัทจัดหางานชื่อดัง Odgers Berndtson ให้สรรหาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด ที่จะมารับตำแหน่งซีอีโอ รวมทั้งโฆษณาทางออนไลน์ ที่สร้างความประหลาดใจไม่น้อยให้แก่สาธารณชน เพราะไม่เคยเห็นตำแหน่งนี้ในวังมาก่อน 

ถ้าคิดในแง่บวกนี่เป็นโอกาสพิเศษ ตำแหน่งซีอีโอคือ ผู้นำอาวุโส และมีความรับผิดชอบมากที่สุดในวัง และต้องรายงานขึ้นตรงต่อเจ้าชาย และเจ้าหญิงแห่งเวลส์ และจะต้องรับผิดชอบในการพัฒนา เติมเต็มยุทธศาสตร์ระยะยาว และเสริมสร้างวัฒนธรรมครัวเรือนที่เป็นมืออาชีพด้วย 

คนที่หวังจะเข้ามารับตำแหน่งนี้ ต้องรับรู้ความเป็นจริงด้วยว่า มีคนที่เอาแต่ใจ และเอาใจยากอยู่ในวัง เพราะฉะนั้นคุณสมบัติของคนที่จะเข้ามา ก็จะต้องมีความฉลาดทางอารมณ์, อีโกต่ำ, มีความตระหนักได้ด้วยตนเอง และเข้าใจถึงผลกระทบที่มีต่อผู้อื่น และที่สำคัญคือ จะต้องสามารถปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้าข้าราชบริพาร และเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ "ทีมอาวุโส" ด้วย

นอกจากขึ้นตรงต่อเจ้าชาย และเจ้าหญิงแห่งเวลส์แล้ว ซีอีโอ ก็มีหน้าที่ต้องติดต่อโดยตรงต่อข้าราชบริพาร ของพระเจ้าชาร์ลส์ และพระราชินีคามิลลาด้วย เพื่อเข้าไปจัดระเบียบ และลำดับความสำคัญในการถวายงานพระเจ้าชาร์ลส์ และพระราชินี 

ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขของเงินเดือนซีอีโอ แต่เชื่อว่าจะสูงกว่าเงินเดือนของราชเลขาฯ 2 คน รวมกัน

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์