สหรัฐสูญเสียวุฒิสมาชิกหญิง'ไดแอนน์ ไฟน์สไตน์' ในวัย 90 ปี
ไดแอนน์ ไฟน์สไตน์ วุฒิสมาชิกหญิงของสหรัฐ ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ เสียชีวิตขณะมีอายุ 90 ปี
สื่อสหรัฐ รายงานในวันศุกร์ (29 ก.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า วุฒิสมาชิก ไดแอนน์ ไฟน์สไตน์ สังกัดพรรคเดโมแครต เสียชีวิตขณะมีอายุ 90 ปี โดยยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ต่อมาสำนักงานของเธอ ระบุในแถลงการณ์ยืนยันว่า วุฒิสมาชิกไฟน์สไตน์เสียชีวิตที่บ้านพักในวอชิงตันเมื่อคืนวันพฤหัสบดี(28ก.ย.)
ต่อจากนี้ นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียมีอำนาจแต่งตั้งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกแทนเธอจนถึงต้นเดือนม.ค.ปี 2568 ซึ่งนิวซัมเคยให้คำมั่นว่า จะแต่งตั้งผู้หญิงผิวสีดำรงตำแหน่งนี้ หากไฟน์สไตน์ ก้าวลงจากตำแหน่ง และในเดือนนี้ เขาบอกว่า จะแต่งตั้งคนที่ไม่ใช่ผู้สมัครที่จะลงชิงตำแหน่งในการเลือกตั้งปีหน้า
ขณะที่นักการเมืองแห่แสดงความเห็นไว้อาลัยและยกย่องวุฒิสมาชิกหญิงจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ได้รับการชื่นชมว่า เป็นผู้บุกเบิกคนสำคัญในการเมืองสหรัฐและเมื่อเดือนก.พ.ปีนี้ เธอประกาศว่า จะไม่ลงสมัครเลือกตั้งอีกสมัยในปี 2567
ไฟน์สไตน์ได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกสมัยแรกในปี 2535 และดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกนานเกือบ 31 ปี สร้างสถิติเป็นวุฒิสมาชิกหญิงที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ และสร้างความสำเร็จมากมาย ซึ่งรวมถึง เป็นผู้หญิงคนแรกที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา
ก่อนหน้านั้น เธอเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครซานฟรานซิสโกในปี 2521 หลังเหตุการณ์ลอบยิงสังหารนายจอร์จ มอสโคน นายกเทศมนตรี และฮาร์วีย์ มิลค์ สมาชิกคณะกรรมการบริหารเมือง เธอยังจำภาพสะเทือนขวัญครั้งนั้นได้ไม่เคยลืม โดยเธอวิ่งไปยังสำนักงานของมิลค์หลังได้ยินเสียงปืน และขณะพยายามจับหาชีพจร นิ้วของเธอก็สัมผัสกับรูกระสุนปืน
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอมุ่งรณรงค์เรื่องการควบคุมอาวุธปืน และผลักดันให้เกิดการแบนปืนไรเฟิลจู่โจมแบบที่ใช้ในกองทัพได้สำเร็จในปี 2537
ในขณะเป็นประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรอง เธอสามารถฝ่าฟันการต่อต้านจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและนักการเมืองพรรครีพับลิกัน ทำให้คณะกรรมาธิการสามารถเผยแพร่รายงานในปี 2557 ที่ตีแผ่เรื่องสำนักงานข่าวกรองกลาง (CIA) มีคุกลับในต่างประเทศ และวิธีสอบปากคำผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายชาวต่างชาติหลังวินาศกรรม 11 ก.ย. 2544
วุฒิสมาชิกไฟน์สไตน์มีปัญหาสุขภาพทรุดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เธอเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากป่วยด้วยโรคงูสวัดเมื่อเดือนก.พ. และเมื่อกลับเข้าสภาในอีก 3 เดือนต่อมา เธอมีอาการแทรกซ้อนหลายอย่างตามมา รวมถึง โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม หรือ อาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก ที่เกิดจากเชื้อไวรัสงูสวัด และโรคไขสมองอักเสบ นอกจากนี้เธอประสบเหตุหกล้มในเดือนส.ค.ทำให้ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลช่วงสั้น ๆ