ผู้นำเมียนมาชี้มีต่างชาติเอี่ยวสู้รบ ขณะกลุ่มติดอาวุธเร่งยึดเมืองเพิ่ม
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่ายชี้ มีผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเอี่ยวสู้รบด้วย ขณะกลุ่มติดอาวุธเร่งเดินเครื่องโจมตีหวังยึดเมืองเอกลอยก่อว์ ในรัฐกะยา
เว็บไซต์อิรวดีรายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำสูงสุดของรัฐบาลทหารเมียนมา ได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า การโจมตียึดฐานที่มั่นของรัฐบาลทหารในช่วงนี้ นอกจากจะเป็นฝีมือของกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ (EAOs) แล้ว ก็ยังมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรื่องโดรนจากต่างชาติเข้าร่วมวงด้วย
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรื่องโดรนต่างชาติจำนวนหนึ่ง มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุโจมตีค่ายทหารและฐานที่มั่นของรัฐบาลหลายแห่งในพื้นที่รัฐฉาน ทางตอนเหนือ เมื่อเดือนที่แล้ว โดยกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ได้ใช้โดรนที่มีเทคโนโยีล้ำสมัยเป็นเครื่องมือในการทิ้งระเบิดนับพันลูกในการโจมตีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ไม่ได้ระบุว่ากลุ่มผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติดังกล่าวเป็นคนสัญชาติใด และไม่ได้ระบุรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
ทั้งนี้ กองกำลังติดอาวุธที่เรียกว่า "พันธมิตรภราดรภาพ 3 ฝ่าย" หรือกองกำลัง 3 พี่น้อง ประกอบด้วยกองกำลังจากโกก้าง (MNDAA) ในเขตปกครองตนเองโกก้างทางตอนเหนือที่มีพื้นที่ติดกับจีน, กองกำลัง TNLA ของกลุ่มชาติพันธุ์ตะอาง (ปะหล่อง) ในพื้นที่รัฐฉานทางตะวันออก, และกองทัพอาระกัน (AA) ในพื้นที่รัฐยะไข่ทางตะวันตก ได้เปิดฉาก "ยุทธการ 1027" หรือการพร้อมใจกันบุกโจมตีรัฐบาลทหารเมียนมาแบบเปิดศึกรอบด้านครั้งใหญ่ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. ซึ่งสามารถยึดเมืองจากรัฐบาลมาได้มากกว่า 8 เมือง และค่ายทหารกับฐานที่มั่นของรัฐบาลได้กว่า 180 แห่งแล้ว
ฝ่ายต่อต้านรุกคืบหวังยึดเมืองเอกลอยก่อว์ รัฐกะยา
เอเอฟพีรายงานว่า กองกำลังติดอาวุธประชาชน (PDF) ซึ่งเป็นฝ่ายติดอาวุธของรัฐบาลแห่งชาติ (เอ็นยูจี) ที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา กำลังเร่งออกปฏิบัติการรุกคืบเพื่อยืดพื้นที่เมืองลอยก่อว์ ซึ่งเป็นเมืองเอกในรัฐกะยา ทางตะวันออกของเมียนมา
กองกำลังติดอาวุธประชาชนดังกล่าว เป็นหนึ่งในหลายสิบกองกำลังภาคประชานในเมียนมาที่ลุกฮือต่อต้านรัฐบาล นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 เป็นต้นมา และร่วมกับกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ 3 ฝ่าย เปิดศึกโจมตีกับรัฐบาลทหารเมียนมาอย่างรอบด้านอยู่ในขณะนี้ หากยึดเมืองดังกล่าวได้สำเร็จจะถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มติดอาวุธสามารถยึดครองระดับเมืองเอกในรัฐแห่งนี้ได้ นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารและการลุกฮือเมื่อกว่า 2 ปีก่อน
ก่อนหน้านี้ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ได้กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า การสู้รบในเมืองลอยก่อว์ที่ต่อเนื่องมานับสัปดาห์เป็นไปอย่างดุเดือด แต่รัฐบาลยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า เมืองเต็มไปด้วยอาคารรกร้าง เพราะการอพยพหนีออกของประชาชนและเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ทำให้กองกำลังติดอาวุธสามารถใช้ป้อมตำรวจและอคารต่างๆ เป็นฐานที่มั่นในการโจมตีได้ ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเน้นการโจมตีด้วยอาวุธปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศเป็นหลัก หลังเพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้ก่อนหน้านี้
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการ 1027 แล้วมากกว่า 3.3 แสนคน และทำให้ปัจจุบันมีผู้อพยพพลัดถิ่นทั่วเมียนมาแล้วถึงกว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศ
"ทูตอินเดีย" เร่งหารือหลังกลุ่มติดอาวุธประชิดชายแดน
วินัย กุมา เอกอัคราชทูตอินเดียประจำเมียนมา ได้เข้าพบรัฐมนตรีกลาโหม และนายตานฉ่วย รัฐมนตรีต่างประเทศของเมียนมา ที่กรุงเนย์ปิดอว์ วานนี้ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ชายแดนภายหลังกองกำลังฝ่ายต่อต้านสามารถยึดเมืองได้ 3 แห่ง ในรัฐชิน (Chin State) ทางตะวันตก ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศอินเดีย
การสู้รบในเมืองดังกล่าวเป็นไปอย่างเข้มข้น และมีรายงานว่าทหารเมียนมา 40 นาย ได้หนีข้ามพรมแดนเข้าไปในอินเดียเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่กองทัพอากาศอินเดียจะควบคุมตัวทหารดังกล่าวและส่งคืนให้รัฐบาลทหารเมียนมาตามมา
จีนส่งเรือรบ 3 ลำร่วมซ้อมรบเมียนมา
สำหรับ "จีน" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ปกครองตนเองโกก้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นหลักของพันธมิตรภราดรภาพ 3 ฝ่ายนั้น มีรายงานว่า เรือรบจีน 3 ลำประกอบด้วย เรือพิฆาต เรือฟริเกต และเรือบรรทุกยุทธปัจจัย ได้เดินทางถึงเมียนมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อร่วมซ้อมรบของกองทัพเรือระหว่างเมียนมาและจีน ขณะที่เกิดความตึงเครียดบริเวณพรมแดนอย่างหนัก
ทีมงานไม่ได้เผยรายละเอียดการซ้อมรบและวันเริ่มต้น แต่สื่อทางการรายงานว่า “กองเรือเฉพาะกิจ” ของจีนแข็งแกร่งด้วยลูกเรือ 700 นาย