ญี่ปุ่น-อาเซียน ยกระดับความมั่นคงทางทะเล ท่ามกลางข้อพิพาททะเลจีนใต้เดือด
ผู้นำประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น เห็นพ้องต้องกัน ในการส่งเสริมการเจรจาและความร่วมมือในด้านความมั่นคงทางทะเลท่ามกลางสถานการณ์ที่จีนแสดงท่าทีแข็งกร้าวในภูมิภาค
สำนักข่าวเอเอพีราย รายงานแถลงการณ์ร่วมของผู้นำประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น หลังประชุมสุดยอดที่กรุงโตเกียว ระบุว่า ญี่ปุ่นและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เห็นพ้องที่จะเสริมสร้างการเจรจาและความร่วมมือ เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยทางทะเล รวมถึงความเรียบร้อยทางทะเลตามหลักนิติธรรม รวมทั้งเสรีภาพและความภัยในการเดินเรือ ตลอดจนการเดินทางบินข้ามภูมิภาคและการพาณิชย์เสรี
แถลงฯระบุเสริมโดยไม่เอ่ยถึงจีนว่า จะเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับขอบเขตทางทะเล รวมถึงความร่วมมือระหว่างยามชายฝั่งและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เสริมสร้างความร่วมมือในการสร้างขีดความสามารถทางทะเล และรับรองการระงับข้อพิพาทด้วยวิถีสันติ โดยปราศจากการข่มขู่หรือใช้การบังคับตามกฎหมายระหว่างประเทศที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ทั้งนี้ ญี่ปุ่น พันธมิตรใกล้ชิดสหรัฐ ที่มีข้อพิพาทอาณาเขตและข้อพิพาทอื่น ๆ กับจีน กำลังเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม และขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงกับหลายประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย
ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งอ้างสิทธิ์ครอบครองพื้นที่เหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นระเบียงการค้าสำคัญ และเพิ่มจำนวนเรือ รวมถึงดำเนินการต่าง ๆ เพื่ออ้างสิทธิ์ในพื้นที่พิพาท จึงทำให้หลายประเทศทั่วภูมิภาคไม่พอใจ รวมทั้งรัฐบาลวอชิงตัน
นอกจากนี้ ญี่ปุ่น ประกาศเมื่อวันเสาร์ (16 ธ.ค.) ว่า เตรียมกระชับสัมพันธ์กับมาเลเซียให้แน่นแฟ้นมากขึ้น พร้อมจัดหาอุปกรณ์เตือนภัยและเฝ้าระวังมูลค่า 400 ล้านเยน (ราว 98 ล้านบาท) และเมื่อเดือนก่อน เห็นพ้องที่จะช่วยฟิลิปปินส์ซื้อเรือยามชายฝั่ง และจัดหาระบบเรดาร์ รวมถึงกำลังหารือเกี่ยวกับการอนุญาตส่งกำลังทหารไปในพื้นที่ของกันและกัน
สัปดาห์ก่อน ญี่ปุ่นยังได้แสดงความกังวลอย่างจริงจังต่อ “การกระทำที่เป็นอันตราย” หลังเรือฟิลิปปินส์และจีนเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด และมีเหตุเรือชนกัน รวมถึงเรือจีนยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่กองเรือฟิลิปปินส์
ด้านประธานาธิบดี เฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่น NHK เมื่อวันเสาร์ว่า (16 ธ.ค.) สถานการณ์ในทะเลจีนใต้มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ
สำนักงานปธน.ฟิลิปปินส์ ระบุ ปธน.กล่าวว่าการที่จีนแข็งกร้าวมากขึ้น สร้างความท้าทายต่อประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย และรัฐบาลมะนิลาจะร่วมมือกับรัฐบาลโตเกียว รัฐบาลวอชิงตัน และประเทศอื่น ๆ ที่มีแนวคิดเดียวกันด้วยการฝึกซ้อมร่วมกัน