มองฟินแลนด์ มองปัจจัยที่ทำให้ชาวโลกเป็นสุข | ไสว บุญมา
ชาวฟินแลนด์มีความสุขสูงสุดในโลกเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันตาม “รายงานความสุขโลก” (World Happiness Report) ล่าสุด แต่พวกเขามักไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส ต่างกับชาวไทยผู้มักมียิ้มสยามอันโด่งดังทั้งที่มีความสุขเพียงลำดับที่ 58 เท่านั้น
ผู้มองว่าชาวฟินแลนด์ไม่ค่อยยิ้มแย้มแจ่มใส ได้แก่ อดีตนายกรัฐมนตรีสตรี ซานนา มาริน ของฟินแลนด์ผู้เข้ารับตำแหน่งเมื่ออายุเพียง 34 ปี ปัจจัยที่ทำให้พวกเขาไม่ค่อยยิ้มแย้มอาจเป็นภาวะทางภูมิอากาศ
ทั้งนี้เพราะแต่ละปีพวกเขาต้องทนหนาวเหน็บอยู่เป็นเวลานานโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่ประเทศของเขาปราศจากแสงตะวันติดต่อกันเป็นแรมเดือน ท่ามกลางภาวะเช่นนี้ มีผู้สงสัยจำนวนไม่น้อยว่าชาวฟินแลนด์มีความสุขสูงมากได้อย่างไร
หลังจากรายงานดังกล่าวพิมพ์ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นิตยสาร U.S. News & World Report เสนอการวิเคราะห์ปัจจัยที่สร้างความสุขให้ชาวฟินแลนด์โดยสรุปว่ามี 5 ปัจจัยได้แก่
1.ระบบสวัสดิการสังคมอันแข็งแกร่ง ฟินแลนด์ใช้งบสูงเกินกว่า 20% ของรายได้ของประเทศเพื่อสวัสดิการชองประชาชนรวมทั้งบำนาญ การรักษาพยาบาล เงินเลี้ยงชีพในช่วงตกงานและสวัสดิการอื่น ๆ ซึ่งรวมแล้วสูงเทียมบ่าเทียมไหล่กับบรรดาประเทศก้าวหน้าสูง
การสำรวจความเห็นของชาวฟินแลนด์เมื่อปี 2565 สรุปว่า 70% พอใจในระบบการรักษาพยาบาลของประเทศ
2.ความเท่าเทียมกันด้านเพศ ฟินแลนด์แทบไม่ตามหลังใครในด้านนี้เพราะมีประวัติยาวนานในการให้ความสำคัญแก่เพศหญิงซึ่งได้รับสิทธิ์ออกเสียงทางการเมืองมาเกือบ 120 ปี ในขณะนี้ 46% ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของประเทศเป็นสตรีซึ่งมีบทบาทสูงในระดับการปกครองท้องถิ่นด้วย
3.การให้ความสำคัญสูงแก่ครอบครัว ฟินแลนด์มีระบบการหยุดพักงานเพื่อการดูแลครอบครัวอยู่ในระดับแนวหน้า เช่น สตรีมีครรภ์หยุดงานได้ 40 วัน หลังคลอดผู้ดูแลทารกพักงานได้ 160 วัน ซึ่งผู้ดูแลนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นแม่เสมอไป อาจเป็นพ่อ หรือพ่อแม่บุญธรรมที่นำทารกไปเลี้ยงก็ได้
4.การให้ความสำคัญสูงแก่สิ่งแวดล้อม ฟินแลนด์ไม่น้อยหน้าประเทศก้าวหน้าทั้งหลายในด้านดูแลสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้อากาศปราศจากมลพิษร้ายแรงและประชาชนมีความเป็นอยู่ที่มีผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ
5.การมีการศึกษาสูง ฟินแลนด์ลงทุนด้านการศึกษาในอัตราสูงกว่าประเทศก้าวหน้าเป็นส่วนใหญ่ เยาวชนไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลจากชั้นประถมจนถึงชั้นอุดมศึกษา
ชาวฟินแลนด์สนใจในด้านอาชีวศึกษาสูงมาก เยาวชนเกิน 2 ใน 3 จึงเรียนในสถาบันอาชีวศึกษา พวกเขาราว 98% เรียนในสถาบันการศึกษาของรัฐและมักเรียนจบออกมาโดยไม่มีหนี้สิน
ทั้ง 5 ปัจจัยเป็นการมองในระดับภาพรวม ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ว่าชาวฟินแลนด์ใช้ชีวิตและคิดอย่างไรตามแนวปัจจัยที่ทำให้คนเป็นสุข
ในบทความซึ่งตีพิมพ์ในคอลัมน์นี้ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2552 บทความนั้นเสนอผลการศึกษาซึ่งสรุปว่า หลังมีปัจจัย 4 เพียงพอแล้ว มนุษย์เรามีความสุขจากความสัมพันธ์อันดีกับผู้ที่อยู่รอบข้างรวมทั้งการมีเพื่อน การเคลื่อนไหวอยู่เป็นนิจ ความช่างสังเกต การเรียนรู้ตลอดเวลา การให้ พร้อมทั้งการมีอาหารดี งานดีและสิ่งแวดล้อมดี
หากเทียบด้าน 5 ปัจจัยกับเมืองไทยซึ่งอยู่ในลำดับที่ 58 ในบรรดา 143 ประเทศ ฟินแลนด์ดูจะมีความเหนือกว่าใน 4 ปัจจัย
การเท่าเทียมกันของสองเพศเท่านั้นที่ไทยดูจะไม่ด้อยกว่า นอกจากนั้น ยังมีอีก 3 ปัจจัยที่คงทำให้ชาวฟินแลนด์มีความสุขมากกว่าชาวไทยอย่างมีนัยสำคัญ
นั่นคือ โดยเฉลี่ยชาวฟินแลนด์มีรายได้มากกว่าชาวไทยราว 2.5 เท่า แต่มีความเหลื่อมล้ำต่ำกว่ามากหากดูจากค่าดัชนีชี้วัดความเหลื่อมล้ำ (Gini) ซึ่งของฟินแลนด์อยู่ที่ 26.6 ส่วนของไทยอยู่ที่ 35.1
และปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำอันสำคัญยิ่งคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากความฉ้อฉล ข้อมูลขององค์กรความโปร่งใสสากล บ่งว่า ฟินแลนด์ได้คะแนน 87 ซึ่งอยู่ลำดับ 2 รองจากเดนมาร์กเท่านั้นในด้านการมีความโปร่งใสสูง ส่วนไทยได้แค่ 35 ซึ่งอยู่ในลำดับ 108 ในจำนวน 180 ประเทศ
ความฉ้อฉลสูงขนาดนี้คงเป็นที่รับได้ชองชาวไทย โดยทั่วจึงยังไม่หยุดส่งยิ้มสยาม แต่ความสุขโดยทั่วไปที่ไม่สูงนักคงบ่งว่ายิ้มนั้นอาจไม่จริงใจเสมอไป.