ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ไม่ได้ลอยมา
15 พ.ค.ปีนี้ สิงคโปร์จะได้ Lawrence Wong เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีข่าวเกี่ยวกับตัวเขามากมายแล้ว แต่ที่ยังไม่มีก็คือเขามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้อย่างไร รู้กันเป็นทางการตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนเชียวหรือ
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการดำเนินการตามรูปแบบของประเทศพัฒนาแล้วประเทศเดียวในอาเซียน ดังนั้น จึงเป็นที่จับตามองอย่างมากไม่ว่าในเรื่องทิศทางนโยบาย วิธีการแก้ไขปัญหาในเรื่องต่างๆ ตลอดจนการมีความริเริ่มใหม่ๆ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ จึงเป็นเรื่องน่าสนใจ
สิงคโปร์ มีพื้นที่ประมาณ 728 ตารางกิโลเมตร (เกาะภูเก็ตมีพื้นที่ 543 ตารางกิโลเมตร) โดยประกอบด้วยเกาะสิงคโปร์ใหญ่และเกาะเล็กเกาะน้อยรอบๆ อีก 63 เกาะ มีประชากร 5.9 ล้านคน และในจำนวนนี้มีพลเมืองสิงคโปร์อยู่เพียง 3.6 ล้านคน หรือ 61.6% เท่านั้น
พรรค PAP (People’s Action Party) ชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นมาตลอด ดังนั้น จึงครองอำนาจต่อเนื่อง มีนายกรัฐมนตรี 3 คน ดังนี้ Lee Kuan Yew (1965-1990) Goh Chok Tong (1990-2004) และ Lee Hsien Loong ลูกชายของนายกรัฐมนตรีคนแรก (2004 ถึงปัจจุบัน)
นายกรัฐมนตรีคนต่อไปจึงจะมาจากที่เรียกว่าทีม 4G คือ Generation หรือชั่วคนที่ 4 ของคนในพรรค PAP ที่สรรหามาจากคนเก่ง คนดี มีศรัทธาในพรรคและประเทศให้ทุนไปเรียนหนังสือต่างประเทศและกลับมาทำงานให้บ้านเมือง ใครที่มีความสามารถมีผลงานดีและมีบุคลิกภาพอันเหมาะสมก็จะก้าวขึ้นทำงานให้ประเทศในระดับผู้บริหาร รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ต่อไป
นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันบอกว่าเป็นมานานพอแล้ว จะลาออกเมื่อกว่า 3 ปีมาแล้ว แต่เมื่อเกิดโควิด-19 ขึ้นก็เลื่อนไปจนถึงปีนี้ ในการคัดสรรครั้งนี้ Senior Minister Teo Chee Hean อดีตนายพลทหารเรือ สส.ของ PAP กว่า 20 ปี อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และรองนายกรัฐมนตรี อันเป็นที่เคารพนับถือของพรรคในวัย 70 ปี เป็นประธานคณะกรรมการคัดสรร
โดยเริ่มเรียงอันดับการทำงานดังนี้ (1) การคุยกันและปรึกษาหารือภายในสมาชิกทีม 4G ว่ามีใครเป็นผู้เหมาะสมบ้าง (2) คณะกรรมการคัดสรรมีบทบาทในการสร้างความมั่นใจว่ากระบวนการเป็นไปอย่างเป็นธรรม มีการพิจารณาคัดสรรกันอย่างถี่ถ้วนรอบคอบกว้างขวางทุกแง่มุม โดยจัดให้มีการปรึกษาหารือพูดจากันอย่างกว้างขวางในกลุ่มต่างๆ ของพรรคและรับฟังทุกความเห็น
(3) สร้างความเห็นร่วมกันโดยไม่มีการลงคะแนน หัวใจสำคัญของการคัดสรรก็คือการสร้างความเห็นพ้องกันในการเลือกบุคคล โดยเฉพาะในกลุ่มผู้นำพรรคที่ยังไม่อาวุโส ขั้นตอนนี้สำคัญเพราะพรรคต้องการสิ่งที่เรียกว่า Collective Leadership ผ่านการตัดสินใจร่วมกัน คนรุ่นใหม่และทีม 4G ต้องเห็นตรงกันจากการหารือและถกเถียงว่าใครเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำของเขา
(4) การยอมรับและสนับสนุนจากผู้อาวุโสของพรรคหลังจากที่มีมติมาแล้วจาก (3) เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง การเห็นชอบในขั้นตอนนี้คือการยืนยันบุคคลที่ได้ลงมติเลือกกันมา และเป็นสัญญาณของการให้การสนับสนุนร่วมกันทั้งหมดขั้นตอนนี้นายกรัฐมนตรีมีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วย (5) การประกาศอย่างเป็นทางการโดยพรรคว่าใครจะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
(6) การยอมรับจากประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไป การลงคะแนนเลือกพรรค PAP โดยตระหนักว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็คือการยืนยันความชอบธรรมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทั้ง 6 ขั้นตอนนี้เป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อคัดสรรคนที่เหมาะสมที่สุดจากการเห็นพ้องของคนในพรรคในขั้นตอนแรก และประชาชนในขั้นตอนสุดท้าย
อย่างไรก็ดี ในครั้งนี้ไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนที่ (6) ได้เพราะสิงคโปร์มีการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี 2025 โดยครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2020 PAP ชนะ 83 ที่นั่งจากจำนวน 93 ที่นั่งทั้งหมดการคัดสรรคนของพรรคจึงทำได้โดยไม่ต้องสนใจพรรคอื่น PAP ได้ประกาศมาตั้งแต่กลางปี 2022 แล้วว่าได้เลือกนาย Lawrence Wong
ประวัติย่อๆ ของ Lawrence Wong ผู้ผ่านการคัดสรรมาอย่างเข้มข้นมีดังนี้ เป็นคนจีนไหหลำ พ่อเป็นผู้บริหารด้านการขาย เเม่เป็นครู ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติของสิงคโปร์ อายุ 51 ปี เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ ฯลฯ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมา 9 ปี เคยเป็นเลขานุการของนาย Lee Hsien Loong ในช่วงโควิดเขาเป็นประธานคณะทำงานร่วมแก้ไขปัญหาโควิดและประสบผลสำเร็จเป็นอันดี
เขาเป็นคนหนุ่มอายุน้อยที่มาแรงมาก โดยเริ่มจากการข้าราชการมือดีในกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง เขาได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลไปเรียนปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ที่ University of Wisconsin และปริญญาโทด้านเดียวกันจาก University of Michigan และสุดท้ายไปเรียนต่อปริญญาโทที่ Kennedy School of Government ที่มหาวิทยาลัย Harvard
อ่านเรื่องราวของการคัดสรรและประวัติของคนระดับนายกรัฐมนตรีของเขาแล้ว คนไทยอย่าร้องไห้นะครับ เหตุที่สิงคโปร์ติดอันดับหนึ่งในเกือบทุกเรื่องของการจัดอันดับโลก และรายได้ต่อหัวของเขาเป็น 11.6 เท่าของเรา ก็พออธิบายได้ว่ามาจากการมีมาตรฐานของคุณภาพผู้นำและกระบวนการคัดสรรดังที่ว่ามานี้