คว่ำบาตรรอบใหม่ ! ‘สหรัฐ’ แบนธุรกิจเอี่ยวรัสเซียเพิ่ม 280 ราย สะเทือนจีน 20 ราย
สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ สะเทือนธุรกิจเอี่ยวรัสเซีย 280 แห่ง รวมจีน 20 แห่ง เพื่อตัดกำลังที่นำไปสู่การหนุนขีดความสามารถในการทำสงครามของรัสเซีย
สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ มีธุรกิจได้รับผลกระทบหลายร้อยราย เนื่องจากมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน และโทษว่า รัฐบาลมอสโกใช้อาวุธเคมีอย่างผิดกฎหมายในการต่อสู้กับกองทัพยูเครน
เจ้าหน้าที่สหรัฐประกาศเมื่อวันพุธ (1 พ.ค.) ว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวมีผลต่อธุรกิจ 280 ราย เพื่อพยายามทำให้กองทัพและความสามารถทางอุตสาหกรรมของรัสเซียเป็นอัมพาต ซึ่งใน 280 รายนั้น มีธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงได้รับผลกระทบ 20 ราย
ธุรกิจจีนที่ได้รับผลกระทบ มีทั้งธุรกิจในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ที่ถูกกล่าวหาว่า “ส่งออกชิ้นส่วนโดรนให้รัสเซีย” และธุรกิจแห่งหนึ่งในฮ่องกง ถูกกล่าวหาว่า “จัดส่งซัพพลายชิ้นส่วน” ที่พบในระบบขีปนาวุธและอากาศยานไร้คนขับ (ยูเอวี) ของรัสเซีย
การคว่ำบาตรรอบนี้ยังมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของ “อเล็กซี นาวัลนี” ผู้นำฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลรัสเซีย และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของรัสเซีย แต่ตั้งอยู่ในเบลเยียม, อาเซอร์ไบจาน, สโลวาเกีย, ตุรกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
“เจเน็ต เยลเลน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์
“การคว่ำบาตรนี้จะดิสรัปต์ และบั่นทอนความพยายามทำสงครามของรัสเซีย โดยการจัดการกับอุตสาหกรรมทางทหาร และเครือข่ายที่ปกปิดการจัดหาซัพพลายให้รัสเซีย”
เยลเลนเสริมอีกว่า มาตรการคว่ำบาตรนี้จะช่วยหนุนความพยายามในการต่อต้าน (รัสเซีย) อย่างแรงกล้าของยูเครน
มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและรัสเซีย
ด้านสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียและจีน ณ กรุงวอชิงตันดีซี ยังไม่ตอบกลับคำร้องขอความเห็นใด ๆ
นอกจากนี้ สหรัฐยังได้กล่าวโทษรัสเซียว่าใช้คลอโรพิคริน (สารที่ใช้เป็นอาวุธเคมีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นสารเคมีที่ผสมแก๊สน้ำตาสำหรับปราบจราจล) และสารควบคุมการจราจล ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
ตามข้อมูลของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า “คลอโรพิคริน” ทำให้เกิดอาการอักเสบรุนแรงต่อดวงตา จมูก และคอในทันทีที่สัมผัสสารนี้ และส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่างบาดเจ็บรุนแรงได้