ไม่ยอมตกกระแสเอไอ! สหภาพ Samsung 'สไตรค์' ขอค่าแรงเพิ่มรับกำไรบริษัท 933%
สหภาพแรงงานของ Samsung Electronics ประกาศจะประท้วงเป็นครั้งแรก หลังจากการเจรจาค่าแรงกับฝ่ายบริหารล้มเหลว แม้ว่าบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 ที่เติบโต 933% จากปีก่อนหน้าก็ตาม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหภาพแรงงานของ “ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์” (Samsung Electronics) บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จากเกาหลีใต้ ได้แถลงในวันพุธ (29 พ.ค.) ว่า จะดำเนินการประท้วงขึ้นเป็นครั้งแรก ท่ามกลางกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/2567 ที่เติบโต 933% จากปีก่อนหน้า
สำหรับสหภาพที่ประท้วงนี้มีชื่อว่า The National Samsung Electronics Union ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานด้านเทคโนโลยีใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีสมาชิกประมาณ 28,000 คน ได้ประกาศว่า เตรียมจะหยุดงานประท้วงหลังจากการเจรจาค่าแรงกับฝ่ายบริหารล้มเหลว ทั้งสองฝ่ายเจรจากันมาตั้งแต่ต้นปี แต่ไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้
วันหยุดงานประท้วงวันแรกจะตรงกับวันศุกร์ ซึ่งอยู่ระหว่างวันหยุดราชการในวันพฤหัสบดีและวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้การหยุดงานครั้งนี้ กลายเป็นการหยุดพักผ่อนที่ยาวขึ้นสำหรับพนักงาน โดยเป็นที่คาดว่า การหยุดงานน่าจะไม่ค่อยมีผลกระทบต่อสายการผลิตชิปและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นระบบอัตโนมัติ และบริษัทก็มีพนักงานอยู่จำนวนมาก
สหภาพแรงงานฯ แถลงหน้าสำนักงานของซัมซุงในกรุงโซลว่า "เราไม่ได้ต้องการขึ้นเงินเดือน 1-2% แต่เราต้องการได้รับค่าตอบแทนที่ยุติธรรมสำหรับปริมาณงานที่ทำ อีกทั้งต้องการได้รับการชดเชยอย่างยุติธรรมและโปร่งใส"
การตัดสินใจของสหภาพแรงงานเกิดขึ้นในช่วงที่บริษัท Samsung ภายใต้การนำของประธานกรรมการบริหาร อีแจยอง หรือ J Y Lee กำลังเผชิญสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย นั่นคือการต้องวิ่งตามผู้ผลิตชิปเจ้าอื่นในตลาด ซึ่งบริษัทคู่แข่งในประเทศอย่าง SK Hynix ได้ก้าวขึ้นนำไปก่อนแล้ว
หลังจากมีรายงานการประท้วง หุ้นของ Samsung ร่วงลงแรงถึง 3.1% ซึ่งนับตั้งแต่ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในเดือนเมษายน ราคาหุ้นได้ลดลงมากกว่า 10% แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า การเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานจะส่งผลต่อธุรกิจของ Samsung อย่างไร โดยมีพนักงานสหภาพฯ บางส่วนวางแผนที่จะหยุดงานในวันที่ 7 มิถุนายน
อ้างอิง: bloomberg