อีก 10 ปี 'อินเดีย' ต้องสร้างบ้านให้เพียงพอต่อความต้องการ '100 ล้านหลัง' !
ผู้บริหารหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย เผยว่า อินเดียอาจต้องสร้างบ้านมากถึง 100 ล้านยูนิต ภายใน 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากรายได้ครัวเรือนจะเพิ่มสูงขึ้น หนุนความต้องการที่พักเพิ่มขึ้นตามมา
“อภิเษก โลธา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) Macrotech Developers Ltd. หนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในมุมไบ ประเทศอินเดีย ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กเมื่อต้นเดือนว่า ครัวเรือนราว 70 ล้านครัวเรือนใน “อินเดีย” ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก จะมีสิทธิได้ครอบครองบ้านในอีก 10 ปี ข้างหน้า โดยผู้คนจะเลือกอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่ดีขึ้น ทำให้ธุรกิจอสังหาฯต้องสร้างบ้านใหม่สูงสุดถึง 100 ล้านหลัง
ด้านนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียที่ได้ครองตำแหน่งสมัยที่สาม และเพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งไปเมื่อวันอาทิตย์ (9 มิ.ย.) ให้คำมั่นว่า จะผลักดันเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบ้านและโครงสร้างพื้นฐาน
ขณะที่ Knight Frank บริษัทที่ปรึกษาอสังหาฯ คาดว่า ความต้องการสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นจากระดับรายได้ที่สูงขึ้นนั้น อาจสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ 906,000 ล้านดอลลาร์ ในอีก 10 ปีข้างหน้า
บลูมเบิร์ก ระบุว่า ตลาดอสังหาฯของอินเดียเฟื่องฟูมากขึ้นนับตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยปี 2566 เป็นปีที่มียอดขายดีที่สุดในรอบอย่างน้อย 15 ปี ซึ่งโมเมนตัมดังกล่าวทำให้ Macrotech ที่บริหารภายใต้กลุ่มบริษัท Lodha มีรายได้รายไตรมาสสิ้นสุดมี.ค. สูงสุดเป็นประวัติการณ์
โลธา เผยด้วยว่า ในปี 2566 อินเดียสร้างบ้านใหม่แล้ว 600,000 หลัง และแม้ภาคการก่อสร้างเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่อินเดียยังต้องพยายามเพิ่มบ้านเพื่อรองรับความต้องการบ้าน 100 ล้านหลังในอีก 10 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ Macrotech Developers บริษัทอสังหาฯที่เป็นที่รู้จักในย่านบ้านหรู มีโครงการเรือธงมากมาย รวมทั้งโครงการ Trump Tower ในมุมไบ และได้เข้าลงทุนในบังคาลอร์ เมืองศูนย์กลางเทคโนโลยี เมื่อปีก่อน รวมทั้งได้ขยายธุรกิจในเมืองปุเณ ที่ห่างจากศูนย์กลางทางการเงินมุมไบราว 150 กิโลเมตร
บริษัทยังเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากบริษัท DLF Ltd. และหุ้นได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 43% ในปีนี้
อ้างอิง: Bloomberg