'Nvidia' แซงหน้าไมโครซอฟท์ ขึ้นแท่นบริษัทมูลค่าอันดับ 1 ของโลกแล้ว

'Nvidia' แซงหน้าไมโครซอฟท์ ขึ้นแท่นบริษัทมูลค่าอันดับ 1 ของโลกแล้ว

อย่างเป็นทางการ! 'Nvidia' แซงหน้า Microsoft ขึ้นเป็นบริษัทมูลค่าอันดับ 1 ของโลกแล้ว หลังหุ้นบวกต่ออีก 3.6% เมื่อคืนนี้ ดันมูลค่าบริษัททะยานสู่ดวงจันทร์ที่ 3.34 ล้านล้านดอลลาร์

KEY

POINTS

  • หุ้นของ 'อินวิเดีย' ปิดบวก 3.6% เมื่อคืนวันที่ 18 มิ.ย. ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปทะยานไปแตะ 3.34 ล้านล้านดอลลาร์ แซงไมโครซอฟท์ซึ่งอยู่ที่ 3.32 ล้านล้านดอลลาร์
  • เฉพาะปี 2567 นี้ ราคาหุ้นอินวิเดียเติบโตแล้วถึง 170%
  • การเติบโตสุดขีดของ AI ทำให้มูลค่าบริษัทอินวิเดียเพิ่มขึ้นไปแล้ว 'มากกว่า 9 เท่า' จากสิ้นปี 2565 และเพิ่งขึ้นไปแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อต้นเดือน มิ.ย. นี้ 

บริษัทผู้ผลิตชิป GPU รายใหญ่ของโลก "อินวิเดีย" (Nvidia) แซงหน้า "ไมโครซอฟท์" (Microsoft) ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้ว หลังจากราคาหุ้นปิดบวกถึง 3.6% เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ทำให้มูลค่าบริษัททะยานขึ้นไปแตะระดับ 3.34 ล้านล้านดอลลาร์ แซงไมโครซอฟท์ซึ่งอยู่ที่ 3.32 ล้านล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา "อินวิเดีย" เพิ่งแซงหน้าบริษัท "แอปเปิ้ล อิงค์" (Apple) หลังมูลค่าบริษัทพุ่งขึ้นแตะระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก และล่าสุดมูลค่าของบริษัทแอปเปิ้ลลงมาอยู่ที่ 3.29 ล้านล้านดอลลาร์ หลังปิดตลาดลบไป 1.1%  มื่อคืนนี้

เฉพาะปี 2567 นี้ ราคาหุ้นของอินวีเดียพุ่งขึ้นไปแล้วกว่า 170% โดยยิ่งทำผลงานดีขึ้นหลังการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ในเดือน พ.ค. และหากเทียบจาก ณ สิ้นปี 2565 ราคาหุ้นพุ่งไปแล้วมากกว่า 9 เท่า สอดคล้องไปกับการเติบโตอย่างสุดขีดของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) 

ผู้นำตลาดชิป AI ดาตาเซ็นเตอร์

ซีเอ็นบีซีระบุว่า อินวิเดียกวาดสัดส่วนตลาดชิปเอไอที่ใช้ในดาตาเซ็นเตอร์ไปมากถึงราว 80% โดยบริษัทหัวแถวในกลุ่มธุรกิจดาตาเซ็นเตอร์ เช่น ไมโครซอฟท์ อัลฟาเบท อเมซอน เมตา และโอเพนเอไอ ต่างก็ต้องการชิปเพื่อนำไปพัฒนาโมเดลเอไอและจัดเก็บประมวลผลปริมาณข้อมูลมหาศาลในวันนี้  

ความต้องการชิปเอไอที่เพิ่มสูงขึ้นมากถูกสะท้อนผ่านผลประกอบการไตรมาส 1 ของอินวิเดียในปีนี้ ซึ่งรายได้จากธุรกิจดาตาเซ็นเตอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 427% เมื่อเทียบปีที่แล้ว ไปอยู่ที่ 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 86% ของยอดขายชิปทั้งหมดของบริษัท

เดิมทีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2534 ภาพของอินวิเดียคือบริษัทฮาร์ดแวร์ที่มุ่งเน้นทำตลาดชิป GPU สำหรับอุตสาหกรรมเกมเป็นหลัก รวมไปถึงกลุ่มทำเมืองคริปโทเคอร์เรนซีและตลาดเกมบนคลาวด์ 
 
ทว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ หุ้นของบริษัททะยานขึ้นอย่างร้อนแรงหลังจาก "วอลสตรีต" ยอมรับอินวิเดียในฐานะบริษัทเทคโนโลยีผู้อยู่เบื้องหลังการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเอไอ และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะชะลอตัวลง 

CEO "เจนเซน หวง" รวยขึ้น 4 พันล้านดอลลาร์ 

\'Nvidia\' แซงหน้าไมโครซอฟท์ ขึ้นแท่นบริษัทมูลค่าอันดับ 1 ของโลกแล้ว

นอกจากจะดันให้อินวิเดียขึ้นเป็นบริษัทมูลค่าอันดับ 1 ของโลกแล้ว ก็ยังส่งผลให้ "เจนเซน หวง" (Jensen Huang) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งอินวิเดียรวยขึ้นถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.46 แสนล้านบาท) ในวันนี้ตามการจัดอันดับ Real time billionnaires ของนิตยสารฟอร์บส์ โดยหวงซึ่งถือหุ้นอินวิเดียอยู่ประมาณ 3% มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ราว 1.187 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 4.35 ล้านล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 11 ของโลก