‘จีน’ ทุ่มงบปั้นอุตฯ EV กว่า 8 ล้านล้าน ใน 10 ปี เทียบเท่า ‘เกือบครึ่ง’ GDP ไทย

ศูนย์ยุทธศาสตร์ และการศึกษานานาชาติ (CSIS) ในสหรัฐ เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์เมื่อวันพฤหัสบดี (20 มิ.ย.67) ว่า รัฐบาล “จีน” ได้ทุ่มเงินกว่า 230,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 8.46 ล้านล้านบาท) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ท้องถิ่น ตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ตัวเลขการลงทุนด้าน EV ของรัฐบาลจีน 8.46 ล้านล้านบาท เทียบเท่า “เกือบครึ่งหนึ่ง” ของขนาดเศรษฐกิจ หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทย ซึ่งอยู่ที่ราว 17 ล้านล้านบาทในปีที่แล้ว

สกอตต์ เคนเนดี ประธานด้านธุรกิจและเศรษฐศาสตร์จีนจาก CSIS กล่าวว่า เงินสนับสนุนจากรัฐบาลจีนคิดเป็นสัดส่วน 18.8% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดระหว่างปี 2552 ถึง 2566 โดยสัดส่วนดังกล่าวลดลงจากกว่า 40% ในช่วงก่อนปี 2560 เหลือเพียงประมาณ 11% ในปี 2566

นอกจากนี้ เคนเนดีเสริมว่า การสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลจีนไม่ได้จำกัดอยู่แค่เม็ดเงินเท่านั้น แต่ยังผ่านนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศมากกว่าเจ้าต่างประเทศ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐไม่ได้สร้างเงื่อนไขที่น่าสนใจเท่ากับจีนในการพัฒนาอุตสาหกรรม EV ของตนเอง

“โดยทั่วไปแล้ว ผู้ผลิตรถยนต์และรัฐบาลชาติตะวันตกดำเนินการช้าเกินไป ไม่ได้ดำเนินการเชิงรุกเพียงพอในการพัฒนาอุตสาหกรรม EV” เคนเนดี ระบุ

ทั้งนี้ เงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีนไม่ได้ถูกนำไปใช้ในการพัฒนารถยนต์ EV โดยตรงทั้งหมด ข้อมูลจากกระทรวงการคลังจีนระบุว่า ในช่วงปีแรกๆ ของการพัฒนา EV ของจีนพบว่า มีบริษัทอย่างน้อย 5 แห่ง ทุจริตเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาล คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านหยวน (ประมาณ 5,049 ล้านบาท)

อ้างอิง: CNBC

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์