'สถานทูตสหรัฐ' ฉลองงาน 'วันชาติ' ยิ่งใหญ่ นายกฯร่วมแสดงความยินดี

ใกล้ถึงวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ค. ซึ่งในวันนี้ของทุกปีเป็น วันประกาศอิสรภาพ  หรือ "วันชาติสหรัฐ" สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ (สถานทูตสหรัฐ) ถือโอกาสจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 248 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพ ณ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ เมื่อวันอังคาร (2 ก.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งภายในงานมีแขกเข้าร่วมฉลองมากมาย ทั้งนักธุรกิจชาวอเมริกัน นักธุรกิจไทย ทีมอาสาสมัครของสหรัฐ เอกอัครราชทูตประเทศอื่น ๆ ในไทย รัฐมนตรีว่าการฯจากกระทรวงต่าง ๆ ของไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ก็เข้าร่วมฉลองงานวันชาติสหรัฐเช่นกัน โดยมี เอกอัครราชทูต โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายกฯเศรษฐา มอบดอกไม้ให้แก่ เอกอัครราชทูตสหรัฐ ขณะที่ทูตฯมอบตุ๊กตาหมีให้เป็นของขวัญ หลังจากนั้นพานายเศรษฐาเยี่ยมชมพื้นที่กิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน ก่อนที่นายกฯจะเดินทางกลับ

ในพิธีเปิด ทูตฯสหรัฐได้กล่าวต้อนรับแขกทุกคนที่มาร่วมงานฉลองครบรอบ 248 ปี แห่งการประกาศอิสรภาพ และปิดท้ายการเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการด้วยการแสดงพลุอย่างยิ่งใหญ่

สำหรับความสำคัญของ วันชาติสหรัฐ ทูตโกเดคเล่าว่า บิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐปรารถนาให้วันนี้เป็นวันที่ครอบครัวชาวอเมริกันทั่วประเทศได้ออกมาปีกนิก จุดพลุ หรือจัดงานรื่นเริง และร่วมฉลองคำนิยมต่าง ๆ ที่กำหนดความเป็นสหรัฐ ทั้งเสรีภาพ ประชาธิปไตย และความยุติธรรม หากมองย้อนกลับไปทุกคนต่างรู้สึกขอบคุณวีรชนผู้รักชาติที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้มาซึ่งคำประกาศที่ว่า ประชาชนควรมีเสรีภาพที่จะคิด ใช้ชีวิต และนับถือศาสนาใดก็ได้

ในฐานะที่สหรัฐประกอบไปด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ ลัทธิ และความเชื่อ ประเทศไม่ได้ยึดถือเฉพาะแนวคิดที่ว่า “มนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน” เท่านั้น แต่ยังยึดมั่นในค่านิยมที่ว่า “อเมริกันชนทุกคน ประชาชนทุกหมู่เหล่า ล้วนเกิดมาเท่าเทียมกันและได้รับสิทธิต่าง ๆ เหล่านี้” และในทุก ๆ วันสหรัฐก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ทุก ๆ คนได้ใช้สิทธิเหล่านี้

"เราขอยกย่องผู้ที่เชื่อมั่นและพิทักษ์หลักการเหล่านี้ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด เพราะหลักการเหล่านี้เป็นของผู้คนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย" โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค กล่าว

นอกจากนี้ การเฉลิมฉลองวันชาติ ยังถือเป็นโอกาสให้ได้ฉลองความเป็นหุ้นส่วนกับไทย ประเทศผู้เป็นมิตรแรกของสหรัฐในเอเชีย และได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จมากมายที่เกิดขึ้นในไทย รวมถึงการผ่านร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม และเมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานทูตสหรัฐยังได้ส่งท้ายปีแห่งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต 190 ปี โดยจัดนิทรรศการ "Weaving Our Stories: สานสัมพันธ์การทูตสหรัฐฯ-ไทย 190 ปี" ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดนิทรรศการ 

สถาทูตสหรัฐยังได้ต้อนรับการมาเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ ในไทยหลายครั้ง ขณะที่สหรัฐก็ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยในสหรัฐเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ สถานทูตยังได้เปิดตัวโครงการด้านการศึกษา ซึ่งเชื่อมโยงสถาบันอุดมศึกษาไทยกับสหรัฐ 50 แห่งเข้าด้วยกันในปีนี้ โดยโครงการเหล่านี้ช่วยเปิดทางให้แก่นักเรียนไทยที่จะไปศึกษาต่อในสหรัฐ และนักเรียนสหรัฐ ที่จะมาศึกษาต่อในไทย 

ไทย-สหรัฐ ยังได้ช่วยกันทำงานเพื่อส่งเสริมความมั่นคงและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจร่วมกัน และได้มีงานวิจัยทางการแพทย์ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพโลก เช่น โรคไข้เลือดออก โรคมาลาเรีย และภัยคุกคามอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

ท่ามกลางความขัดแย้งและความท้าทายที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาเกี่ยวกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทูตสหรัฐยืนยัน ระบบระหว่างประเทศ รวมถึงความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้หลายฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้น จึงควรรักษาระบบเหล่านี้ให้ดำเนินต่อไป เพื่อให้ทุกคนมีเสรีภาพขั้นพื้นฐานและนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง