'ลาว' ปลดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เซ่นพิษ ศก.รุมเร้า หนุ่มสาวแห่หนีทำงานเมืองไทย

'ลาว' ปลดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เซ่นพิษ ศก.รุมเร้า หนุ่มสาวแห่หนีทำงานเมืองไทย

นายกฯ ลาวสั่งย้ายผู้ว่าการแบงก์ชาติ 'บุนเหลือ สินไซวอละวง' เซ่นพิษเงินเฟ้อสูง เงินกีบอ่อนค่าหนัก ทำคนรุ่นใหม่แห่ทิ้งบ้านหางานทำในเมืองไทย

สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชีย (RFA) รายงานว่า สภาแห่งชาติลาวมีมติเห็นชอบให้ถอดถอนนาย "บุนเหลือ สินไซวอละวง" ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติลาวออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.67) ตามญัตติที่เสนอโดยนายกรัฐมนตรี สอนไซ สีพันดอน
 

รายงานระบุว่าที่ประชุมสภาแห่งชาติลาว ซึ่งมีการหารือกันเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในประเทศ เห็นชอบในการโยกย้ายนายบุนเหลือให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นในแขวงหลวงพระบาง แต่ไม่มีการระบุรายเอียดเพิ่มเติม และยังไม่มีความคืบหน้าด้วยว่าจะมีการแต่งตั้งใครมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการแบงก์ชาติลาวแทน  

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของลาวยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบในช่วงการระบาดของโควิด และกำลังเจอปัญหารุมเร้าทั้งเงินเฟ้อสูง ค่าเงินกีบอ่อนค่าหนัก และภาวะหนี้สูง ซึ่งกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของลาวจนคนหนุ่มสาวต่างทิ้งบ้านเกิดหนีไปหางานทำในประเทศไทยหรือประเทศอื่นๆ ใกล้เคียง

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติลาว ระบุว่า ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น และสถานการณ์ค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของลาวพุ่งทะยานแตะระดับ 25.77% ในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา

ในขณะที่ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ระบุก่อนหน้านี้ว่า ค่าเงินกีบของลาวอ่อนค่าลงอย่างหนักถึง 31% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในปี 2566 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงเป็นทิศทางอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องในปีนี้ 

รายงานของเวิลด์แบงก์ ระบุว่า ภาระหนี้ของลาวที่อยู่ในระดับสูงทำให้รัฐบาลไม่สามารถดำเนินมาตรการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อสูงได้อย่างทันท่วงที จนสร้างแรงกดดันต่อรายได้ และมาตรฐานค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงสร้างปัญหาระยะยาวต่อผลิตภาพแรงงานอีกด้วย

นายสันติภาพ พรมวิหาน รัฐมนตรีคลังของลาวได้เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพื่อชำระรายจ่ายเกี่ยวกับหนี้สินทั้งหมด แต่จนถึงปัจจุบันแบงก์ชาติลาวกลับหาเงินได้เพียง 3 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น  

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ย้ายผู้ว่าฯแบงก์ชาติ 

ก่อนหน้านี้ในปี 2565 สภาแห่งชาติลาวเคยมีมติเปลี่ยนตัวธนาคารแห่ง สปป.ลาวมาแล้วตามคำเสนอของนายกรัฐมนตรี พันคำ วิพาวัน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐบาลในขณะนั้น โดยโยกย้ายนาย "สอนไซ สิดพะไซ" ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ไปเป็นรัฐมนตรีประจำห้องว่าการสำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งนาย "บุนเหลือ สินไซวอละวง" รองรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน มาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป.ลาว แทน

นายบุนเหลือ สินไซวอละวง จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสหภาพโซเวียต และศึกษาต่อในระดับปริญญาโท และเอกด้านเศรษฐศาสตร์ ที่ประเทศออสเตรเลีย ก่อนจะกลับมาทำงานด้านเศรษฐกิจการเงินในรัฐบาล

'ลาว' ขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำข้าราชการ รอบที่ 3

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือนมิ.ย. รัฐบาลเพิ่งประกาศเตรียมเพิ่มเงินเดือนขั้นต่ำให้ข้าราชการเป็นครั้งที่ 3 หวังบรรเทาปัญหา 'ค่าครองชีพพุ่งทะยาน-ค่าเงินกีบอ่อนค่าหนัก' ย้ำจะพยายามจ่ายเงินเดือนให้ 'ตรงเวลา'

เว็บไซต์สื่อท้องถิ่นในลาวรายงานในขณะนั้นว่า รัฐบาลเวียงจันทน์ได้ประกาศแผนเตรียมขึ้น "เงินเดือนขั้นต่ำ" ให้ข้าราชการในสปป.ลาว อยู่ที่ระหว่าง 2 - 2.22 ล้านกีบต่อเดือน (ราว 91.45 - 199.60 ดอลลาร์) หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,368 - 3,705 บาท โดยคาดว่าจะเริ่มได้ภายในปี 2568 เพื่อรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจ และค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น 

นายสันติภาพ พรหมวิหาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของลาว เปิดเผยเรื่องนี้ระหว่างการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งในแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะขึ้นเงินเดือน และค่าตอบแทนให้กับข้าราชการและตำรวจ

อย่างไรก็ดี แม้ว่ารัฐบาลลาวจะมีการปรับขึ้นเงินเดือนมาแล้วหลายครั้งเมื่อไม่นานมานี้ แต่รัฐมนตรีคลังของลาวยอมรับว่าอัตราเงินเดือน และค่าตอบแทนที่เพิ่มให้ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับ "ผลกระทบจากเงินเฟ้อ" และ "ค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลงได้"   

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์