‘หุ้นบิ๊กเทคไต้หวัน' กอดคอร่วงระนาว หลัง 'ไบเดน' ถอนตัวจากศึกเลือกตั้ง

‘หุ้นบิ๊กเทคไต้หวัน' กอดคอร่วงระนาว หลัง 'ไบเดน' ถอนตัวจากศึกเลือกตั้ง

หุ้นบริษัทเทคโนโลยีไต้หวันชั้นนำ กอดคอร่วงระนาว หลังโจ ไบเดน ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งสหรัฐ นักวิเคราะห์ชี้ตลาดหุ้นอ่อนไหวต่อข่าวสารแง่ลบมากขึ้น แต่บางคนคาดความอ่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพียงระยะสั้น

หุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีไต้หวันชั้นนำร่วง หลัง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ประกาศถอนตัวจากการลงแข่งขันชิงเกาอี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ ถือเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองล่าสุดที่เขย่าเศรษฐกิจเทคโนโลยีชิปในเอเชีย

สำนักข่าวนิกเคอิเอเชีย รายงานว่า ดัชนี Taiex ที่ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 28% ในปีนี้ (อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 19 ก.ค.) ปิดลบ 2.68% และระหว่างวันมีช่วงที่ร่วงมากกว่า 3%

ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค (ทีเอสเอ็มซี) บริษัทผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดในโลก หุ้นร่วงมากกว่า 3% ใน ตลาดหุ้นไต้หวัน ขณะที่มีเดียเท็ก (MediaTek) บริษัทพัฒนาชิปโทรศัพท์มือถือชั่นของโลก (เมื่อวัดจากยอดจัดส่ง) หุ้นดิ่ง 2.77%

ส่วนหุ้นของ ยูไนเต็ด ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ คอร์ป (United Microelectronics Corp) บริษัทผลิตชิปตามสัญารายใหญ่อันดับ 2 ของไต้หวัน ปรับตัวลดลงมากกว่า 3% และ หุ้น ASE Technology Holding บริษัทให้บริการทดสอบและบรรจุผลิตภัณฑ์ชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก หุ้นร่วงแรงมากกว่า 4% ในวันนี้

ราคาหุ้นฟ็อกซ์คอนน์ ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์เอไอที่สำคัญของอินวิเดีย และผู้ประกอบชิ้นส่วนไอโฟน ปรับตัวลดลง 5.63% สู่ระดับต่ำกว่า 200 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นอื่น ๆ ในเอเชียก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดย ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และ ตลาดหุ้นเซินเจิ้น ปิดลบมากกว่า 1% ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดเกาหลีใต้ ร่วงมากกว่า 1% เล็กน้อย 

ตลาดหุ้นเทคโนโลยีและตลาดหุ้นอื่น ๆ ในเอเชียปรับตัวลดลงเป็นวงกว้างเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังทรัมป์เผยกับบลูมเบิร์กว่า ไต้หวันควรจ่ายค่าคุ้มครองให้สหรัฐ และว่า เกาะแย่งธุรกิจชิปจากสหรัฐไปราว 100%

แม้ความคิดเห็นทรัมป์ต่ออุตสาหกรรมชิปไต้หวันเป็นไปในทางลบ แต่ทีเอสเอ็มซี ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ค.) ว่า แผนการลงทุนในแอริโซนายังคงไม่เปลี่ยนแปลง และไม่ได้พิจารณาร่วมทุนกับสหรัฐเพื่อลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์

ความคิดเห็นนักวิเคราะห์ต่อตลาดหุ้นไต้หวัน

“เจฟฟ์ พู” กรรมการผู้จัดการบริษัทวิจัยเทคโนโลยี Haitong Securities เผยว่า หุ้นของบริษัทเทคฯและชิป ปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการถอนตัวจากการแข่งขันเลือกตั้งของไบเดน และนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจเพิ่มมากขึ้น

เหตุผลพื้นฐานอีกประการคือ หุ้นเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์เติบโตอย่างรวดเร็วเกินไป ทำให้มูลค่าหุ้นหลายบริษัทสูงขึ้น และสาเหตุที่หุ้นบริษัทเทคฯไต้หวันร่วงมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค เป็นเพราะเกิดความกังวลว่า ความคิดเห็นทรัมป์เกี่ยวกับการจ่ายค่าคุ้มครองอาจกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันของนักลงทุนทั่วไปทั่วโลก

ขณะที่เงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่ก็อ่อนค่าลงอย่างมากในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ถือเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่า นักลงทุนต่างชาติปรับหุ้นบางส่วนเหลือน้อยลง

อย่างไรก็ตาม พูเห็นว่า สถานการณ์นี้เป็นเพียงการปรับฐานการลงทุนในระยะสั้น และแนวโน้มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยียังคงไม่เปลี่ยนแปลง

โจนาห์ เฉิง” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนจาก เจแอนด์เจ อินเวสเมนต์ (J&J Investment) บอกว่า ตลาดหุ้นไต้หวันให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เข้าปี 2567 และมีความอ่อนไหวสูงต่อข่าวสารด้านลบที่เกี่ยวกับตลาด

“เหตุการณ์หรือข่าวสารเล็กน้อย ๆ สามารถสร้างความกดดันต่อการซื้อขายในตลาดหุ้นได้ และข่าวไบเดนถอนตัวออกจากการลงแข่งขันก็เป็นปัจจัยล่าสุด(ที่กระทบตลาด) และไม่มีใครสาารถบอกได้ว่าแรงกดดันต่อการซื้อขายเหล่านี้จะอยู่นานแค่ไหน”

เฉิง นักวิเคราะห์ที่ติดตามตลาดหุ้นไต้หวันและสหรัฐมานานนับสิบปี เผยด้วยว่า บรรดานักลงทุนต่างประเทศและบริษัทประกันภัยต่างขายหุ้นในตลาดไต้หวันเมื่อต้นเดือน ก.ค. บ่งบอกว่าตลาดหุ้นไต้หวันทำกำไร และหมายความว่านักลงทุนอื่น ๆ ที่ยังซื้อหุ้นในตลาดหุ้นไต้หวันเมื่อไม่นานมานี้ เป็นนักลงทุนระยะสั้นรายย่อย ทำให้ตลาดมีความผันผวนต่อความเคลื่อนไหวของข่าวสาร

ฟีลิกซ์ ลี” นักวิเคราะห์หุ้นจากมอร์นิงสตาร์ (Morningstar) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวในวันนี้มาจากทั้งความต้องการขายหุ้นทำกำไร และการสับเปลี่ยนทางภูมิรัฐศาสตร์ของนักลงทุน ที่ได้รับแรงขับเคลื่อนมาจากคำพูดของทรัมป์เมื่อสัปดาห์ก่อน

 

อ้างอิง: Nikkei Asia