เปิดงบอัดฉีด ‘นักกีฬาโอลิมปิกต่างชาติ' ได้เงิน บ้าน รถ พีกสุดได้ 'วัว - ร้านลูกชิ้น'

เปิดงบอัดฉีด ‘นักกีฬาโอลิมปิกต่างชาติ' ได้เงิน บ้าน รถ พีกสุดได้ 'วัว - ร้านลูกชิ้น'

เปิดงบอัดฉีดเงินรางวัลสำหรับ "นักกีฬาโอลิมปิก" ชาวต่างชาติ พบ ฮ่องกง และสิงคโปร์จ่อมอบเงินรางวัลหลัก 20 ล้านบาท ให้แก่ผู้ชนะเหรียญทอง ขณะที่ชาติอื่นๆเคยได้รับของรางวัลสุดแปลก เช่น วัว ข้าวสาร และร้านลูกชิ้น

การแข่งขันโอลิมปิกปารีส 2024 เปิดฉากมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว และหลายประเทศ/เขตปกครอง สามารถคว้าเหรียญที่ตนหวังได้แล้วเรียบร้อย ซึ่งหากดูข้อมูล ณ วันที่ 1 ส.ค.67 พบว่า ประเทศจีนครองเหรียญทองมากที่สุด และครองเหรียญรางวัลมากสุด รองลงมาเป็นประเทศฝรั่งเศส และญี่ปุ่น

ขณะที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลไม่ได้เปิดเผยว่าหน่วยงานมอบเงินรางวัลให้กับผู้ชนะที่คว้าเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงเป็นมูลค่าเท่าใด แต่หลายประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันต่างอัดฉีดเงิน และรางวัลต่างๆ ให้แก่นักกีฬาของตนอย่างสมเกียรติ

จากการรวบรวมข้อมูลจากคณะกรรมการโอลิมปิก สมาคมกีฬาต่างๆ และรายงานท้องถิ่น ซีเอ็นบีซีได้สรุปเงินรางวัลไว้ดังนี้ (หน่วย: ดอลลาร์)

ประเทศ/เขตปกครอง   เหรียญทอง        เหรียญเงิน          เหรียญทองแดง

1.ฮ่องกง    3333                    768,000              384,000                192,000

2.สิงคโปร์                      745,000               373,000               186,000

3.อินโดนีเซีย                  300,000              150,000                 60,000

4.อิสราเอล                     271,000               216,000              135,000

5.คาซัคสถาน                 250,000               150,000                75,000

6.มาเลเซีย                     216,000                 65,000                22,000

7.สเปน                           102,000                52,000                33,000

8.ฝรั่งเศส                         87,000                 43,000                22,000

9.เกาหลีใต้                       45,000                 25,000                18,000

10.สหรัฐ                          38,000                  23,000               15,000

11.ญี่ปุ่น                           32,000                  13,000                6,000

12.โปแลนด์                     25,000                   19,000              14,000

13.เยอรมนี                       22,000                   16,000              11,000

14.ออสเตรเลีย                 13,000                    10,000               7,000

ประเทศไทยก็มอบเงินอัดฉีดก้อนใหญ่ให้กับนักกีฬาที่คว้าเหรียญเช่นกัน โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (NSDF) ระบุว่า หากนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนได้ จะได้รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท เหรียญเงินได้ 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดงได้ 4.8 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมเงินรางวัลจากภาคเอกชนและภาคส่วนอื่น ๆ

หากเทียบกับเงินรางวัลอัดฉีดเหรียญทองของฮ่องกง และสิงคโปร์ที่ปรับเป็นเงินไทยจะได้ประมาณ 27 ล้านบาท และประมาณ 26 ล้านบาท ตามลำดับ ถือเป็นเงินอัดฉีดที่มากกว่าไทยหลายเท่า

ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลของซีเอ็นบีซี พบว่า ฮ่องกง และสิงคโปร์เสนอเงินรางวัลให้แก่นักกีฬาโอลิมปิกมากที่สุด และเงินรางวัลที่มอบให้แก่นักกีฬาฮ่องกงในการแข่งขันครั้งนี้ สูงกว่าโอลิมปิกโตเกียว 20%

ล่าสุด นักกีฬาว่ายน้ำ และนักกีฬาฟันดาบของฮ่องกงคว้าเหรียญทอง และทองแดงในการแข่งขันโอลิมปิกปารีส แน่นอนว่าเงินรางวัลหลักสิบล้านรออยู่

ขณะที่สิงคโปร์เคยมอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬาที่คว้าเหรียญโอลิมปิกเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ โจเซฟ สคูลลิง นักกีฬาว่ายน้ำท่าผีเสื้อที่เอาชนะไมเคิล เฟลป์ส ผู้ครองสถิติโลก และสถิติโอลิมปิกได้ และคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันว่ายน้ำในโอลิมปิกริโอเดจาเนโรปี 2018

รองจากฮ่องกง และสิงคโปร์ พบ อิสราเอล มาเลเซีย คาซัคสถาน และอินโดนีเซีย มอบเงินรางวัลอัดฉีดให้กับนักกีฬาหลักแสนดอลลาร์เช่นกัน และอิสราเอลอัดฉีดเงินรางวัลเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อน 50%

สำหรับนักกีฬาเยอรมนี แม้ไม่ได้คว้าเหรียญ 3 อันดับแรก แต่มูลนิธิช่วยเหลือด้านกีฬาของเยอรมนียังคงมอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬาที่อย่างน้อยติดอันดับ 8 จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกประเภทต่างๆ ขณะที่นักกีฬาอินเดียจะได้รับทั้งเงินรางวัลจากรัฐบาล และสมาคมกีฬาระดับชาติต่างๆ โดยรัฐบาลอินเดียอัดฉีดเงินรางวัลสำหรับนักกีฬาที่คว้าเหรียญทอง 7.5 ล้านรูปี หรือราว 3.1 ล้านบาท และสมาคมโอลิมปิกอัดฉีดให้อีก 10 ล้านรูปี หรือราว 4.4 ล้านบาท

รางวัลแปลกๆ ของแชมป์โอลิมปิก

นอกจากนักกีฬาโอลิมปิกที่คว้าแชมป์จะได้เงินรางวัลแล้ว นักกีฬาบางคนยังได้รับรางวัลอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อพาร์ตเมนต์ รถยนต์ ซึ่งเป็นรางวัลจากทั้งรัฐบาล และภาคเอกชน และที่พีกสุดคือ รางวัลเป็นวัว และร้านลูกชิ้น

สำหรับนักกีฬาโอลิมปิกคาซัคสถาน นอกจากเงินรางวัลแล้ว ยังได้อพาร์ตเมนต์จากรัฐบาล ขณะที่บริษัทเอกชนของมาเลเซียบางแห่งเสนอเงินรางวัล และอพาร์ตเมนต์แก่นักกีฬาที่คว้าเหรียญได้ 

ด้านฮันนาห์ โหยว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชน และกีฬาของมาเลเซีย เผยว่า นักกีฬาทุกคนที่ติดอันดับ 1-3 จะได้รถยนต์ร่วมด้วย

ส่วนนักกีฬาเกาหลีใต้ที่ได้รับเหรียญ มีสิทธิได้รับเงินบำนาญนอกเหนือจากเงินรางวัล โดยผู้ที่ได้เหรียญทองจะสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินบำนาญตลอดชีวิต เดือนละ 1 ล้านวอน หรือประมาณ 26,000 บาทต่อเดือน หรือจะรับเป็นเงินก้อนที่ 67.2 ล้านวอน หรือราว 1.7 ล้านบาท หากได้เหรียญเงินจะได้เงินน้อยลงมาที่ระดับ 35 ล้านวอน และเหรียญทองแดงได้ 25 ล้านวอน

นักกีฬาบางคนอาจได้สิทธิรับเครื่องดื่มฟรี หรือใช้ขนส่งสาธารณะฟรี โดย MTR Corp. ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะในฮ่องกงจะให้ตั๋วใช้บริการขนส่งฟรีตลอดชีวิตแก่นักกีฬาผู้ได้รับเหรียญ

เคลาเดีย ซโวลินสกา นักพายเรือแคนูจากโปแลนด์ ได้รับทั้งเงินรางวัลจากคณะกรรมการโอลิมปิกโปแลนด์ ภาพวาด บัตรกำนัลสำหรับวันหยุด เงินทุน และเพชร ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับการคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันเรือแคนูสลาลอม K1

นอกจากของรางวัลเหล่านั้นแล้ว นักกีฬาบางคนยังได้ของรางวัลแปลกๆ อีกด้วย

ในมาเลเซีย ธุรกิจท้องถิ่นบางแห่งให้คำมั่นแจกอาหาร และชาชัก teh tarik ฟรีตลอดชีวิตกับนักกีฬาที่ได้รับชัยชนะ

ส่วนนักกีฬาปิงปองญี่ปุ่น เคยได้รับข้าวสาร 100 ถุงหลังได้เหรียญเงินจากโอลิมปิกโตเกียว 2020 ขณะที่นักกีฬาแบดมินตันชาวอินโดนีเซียที่ได้เหรียญทองก็เคยได้รับวัว 5 ตัวเป็นของรางวัล รวมถึงร้านลูกชิ้นและบ้านหลังใหม่

อย่างไรก็ตาม ยังมีนักกีฬาบางประเทศที่ไม่ได้รับเงินอัดฉีดเมื่อชนะการแข่งขัน เช่น นักกีฬาจากสหราชอาณาจักร และนอร์เวย์

 

อ้างอิง: CNBC

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์