‘ออสเตรเลีย’ เพิ่มเตือนภัยก่อการร้าย สู่ระดับ 'น่าจะเกิดขึ้น' เพราะแนวคิดสุดโต่ง

‘ออสเตรเลีย’ เพิ่มเตือนภัยก่อการร้าย สู่ระดับ 'น่าจะเกิดขึ้น' เพราะแนวคิดสุดโต่ง

ออสเตรเลียประกาศเพิ่มระดับเตือนภัยก่อการร้าย เป็น “น่าจะเกิดขึ้น” (probable) เนื่องจากชาวออสเตรเลียจำนวนมากมีแนวคิดสุโต่งมากขึ้น

ออสเตรเลีย ประกาศเพิ่มระดับเตือนภัยก่อการร้าย เป็น “น่าจะเกิดขึ้น” (probable) จากเดิมที่ระดับ “อาจจะเกิดขึ้น” (possible) ในวันนี้ (5 ส.ค.) โดยให้เหตุผลว่า แนวคิดสุดโต่ง ในประเทศกำลังเพิ่มสูงขึ้น ทำให้การวางแผนโจมตีภายในประเทศในช่วง 12 เดือนข้างหน้ามีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่า 50%

แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เผยว่า การยกระดับเตือนภัยครั้งนี้เป็นไปตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านความมั่นคง แต่ยืนยันว่ายังไม่มีภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นในทันที

“ข้อมูลที่เราได้รับ คือ ชาวออสเตรเลียจำนวนมากขึ้นมีแนวคิดสุดโต่งที่หลากหลายมากขึ้น และเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเฝ้าระวัง” นายกฯ อัลบาเนซี กล่าวในการแถลงข่าว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียเคยลดระดับเตือนภัยลงเป็น “อาจจะเกิดขึ้น” ในปี 2565 หลังจากที่คงระดับ “น่าจะเกิดขึ้น” ไว้เป็นเวลา 8 ปี

นายไมค์ เบอร์เจสส์ อธิบดีหน่วยข่าวกรองความมั่นคงแห่งชาติออสเตรเลีย ระบุว่า ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ต้องยกระดับเตือนภัย

“ความขัดแย้งดังกล่าวได้จุดชนวนความไม่พอใจ กระตุ้นการประท้วง บั่นทอนความสามัคคีของคนในสังคม และเพิ่มความเกลียดชัง”นายเบอร์เจสส์กล่าว

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ออสเตรเลียเผชิญกับเหตุการณ์ความรุนแรงหลายครั้ง ซึ่งบางเหตุการณ์ระบุว่ามีแรงจูงใจจากแนวคิดสุดโต่ง

ในเดือนเม.ย. เกิดเหตุบิชอปแห่งโบสถ์อัสซีเรียและศาสนิกชนบางรายถูกทำร้ายด้วยมีดที่ซิดนีย์ โดยตำรวจออสเตรเลียระบุว่านี่เป็นการก่อการร้ายที่มีแรงจูงใจจากลัทธิความเชื่อสุดโต่งทางศาสนา