ประชุม 'แจ็กสัน โฮล' คืออะไร ทำไมโลกต้องจับตา 'พาวเวล' 3 ทุ่มคืนนี้

ก่อนจะถึงการประชุมครั้งสำคัญของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือน ก.ย. 2567 ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นการประชุมนัดที่เฟดจะเปลี่ยนทิศทางนโยบายสู่ดอกเบี้ยขาลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีนั้น ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ "แจ็กสัน โฮล" ในวันนี้ก่อน เพราะถือเป็นการพรีวิวให้ทราบว่า

เฟดมองเศรษฐสหรัฐอย่างไร ทิศทางนโยบายการเงินจะไปแบบไหน มีปัญหาอะไรที่น่ากังวล และอาจถึงขั้นถอดรหัสว่าจะนำไปสู่การลดดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.5% ในเดือนหน้า

Jackson Hole คืออะไร

แจ็กสัน โฮล(Jackson Hole) เป็นชื่อเมืองในรัฐไวโอมิง สหรัฐ แต่ได้กลายเป็นชื่อเล่นติดปากไปแล้วของการประชุมนโยบายทางเศรษฐกิจประจำปีของเฟด (Symposium) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำมาเกือบ 50 ปีแล้ว โดยมีเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ เป็นเจ้าภาพ

การประชุมนี้มีผู้เข้าร่วมงานเพียงประมาณ 120 คน ซึ่งรวมถึงผู้ว่าการและเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางจากหลายประเทศเข้าร่วมด้วย ซึ่งแนวคิดและการอภิปรายพูดคุยกันที่เกิดขึ้นจากการประชุมนี้มักจะ "มีอิทธิพล" ต่อนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลก ทำให้เป็นงานสำคัญในปฏิทินการเงินโลก

การประชุม 3 วันระหว่างวันที่ 22-24 ส.ค. ในปีนี้ มีธีมสำคัญคือ "การประเมินประสิทธิภาพและการส่งผ่านนโยบายการเงินใหม่" (Reassessing the Effectiveness and Transmission of Monetary Policy)

ทำไมการประชุมครั้งนี้ถึงสำคัญ

ในปีนี้ ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ถ้อยแถลงของ "เจอโรม พาวเวล" ประธานเฟดมากเป็นพิเศษ ซึ่งจะแถลงในเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.00 น. ตามเวลาในไทยวันนี้ เพื่อมองหาสัญญาณเพิ่มเติมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งที่จะถึงนี้ในวันที่  17-18 ก.ย. ซึ่งสัญญาณจากตัวเลขเศรษฐกิจไปจนถึงบันทึกการประชุมของเฟด (Fed minutes) ครั้งที่แล้วบ่งชี้ว่าคณะกรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนการลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.

รอยเตอร์สรายงานอ้างนักวิเคราะห์จากธนาคารโนมูระว่า ถ้อยแถลงของพาวเวลคาดว่าจะเป็นไปอย่างรอบคอบ สมดุล และยังคงแสดงถึงความยืดหยุ่นในแนวทางของเฟด โดยโนมูระเชื่อว่าพาวเวลไม่น่าจะแสดงความเห็นใดๆ ที่พลิกไปจากแนวทางการอผ่อนปรนนโยบายการเงินที่เคยส่งสัญญาณเอาไว้

ทางด้าน FedWatch tool ของ CME ระบุว่าตลาดให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.ที่ 0.25% มากที่สุด 73.5% และยังคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมแล้วถึง 0.99% ภายในสิ้นปี 2567 นี้

มีเรื่องอะไรอีกบ้าง

พาวเวลและเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ มักจะชอบอธิบายให้เห็นถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในฉากทัศน์ต่างๆ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถนำเสนอมุมมองพื้นฐานได้ แต่ก็ยังสื่อถึง "ความไม่แน่นอน" ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน 

ตัวอย่างเช่น บางคนเริ่มกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในจุดที่อัตราการว่างงานอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมากพอ จนอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยแบบ Hard-landing แทนที่จะเป็น Soft-landing อย่างที่คาดหวังกัน 

แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเฟดคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ Maximum employment หรือเศรษฐกิจที่มีการจ้างงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นเป้าหมาย 1 ใน 2 ประการของเฟดควบคู่ไปกับเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ และยังไม่แน่ชัดว่าเฟดจะทนต่ออัตราว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นได้แค่ไหน ซึ่งจะสะท้อนผ่านการลดดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.5%