Entertainment Complex เกาะเซนโตซา VS ไทย | กันต์ เอี่ยมอินทรา
ประเด็นการสร้าง Entertainment complex ที่อดีตนายกฯทักษิณเสนอในการแสดงวิสัยทัศน์ ถือเป็นประเด้นที่สามารถ นำมาต่อยอดความคิด และหารือดูข้อดีข้อเสียร่วมกัน หากดูตัวอย่างเกาะเซนโตซาในสิงคโปร์ จะพบว่าไม่ได้มีเพียงกาสิโนเท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่สันทนาการอื่น ๆ อีกมาก
น่าจะเป็นดินเนอร์ทอล์กที่ฮือฮาที่สุดในรอบสิบปี ทันทีที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร แสดงวิสัยทัศน์กับทิศทางของประเทศ
มีหลายประเด็นที่สามารถนำมาต่อยอดความคิด รวมถึงเช็กดูข้อเท็จจริง ข้อเด่น ข้อด้อยร่วมกัน เพื่อถกเถียงถึงแนวทางการบริหารพัฒนาประเทศ และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของ Entertainment complex หรือที่หลายคนเรียกว่า บ่อนเสรี
Entertainment complext ที่ดร.ทักษิณเสนอว่าโปรเจกต์นี้จะไม่ได้มีแค่เพียงบ่อนกาสิโน แต่จะมีห้าง มีศูนย์สันทนาการ สวนน้ำ สวนสนุก และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นแม่เหล็กที่จะดึงดูดให้ทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยว หากจะเปรียบเทียบให้ใกล้เคียงที่สุดกับไอเดียนี้ ก็คงเปรียบได้กับเกาะเซนโตซา ของสิงคโปร์
เกาะเซนโตซานี้ เดิมเคยเป็นฐานทัพเก่าแล้วจึงถูกนำมาปรับปรุง ถมทะเลเพิ่ม เพื่อสร้าง Entertainment complex ถือเป็นเกาะแห่งความสนุก ที่ทั้งคนสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมไปเที่ยว ตากอากาศ หรือแม้กระทั่งพักผ่อนหย่อนใจช่วงสุดสัปดาห์ เพราะความครบครันเรื่องสถานที่เที่ยว ร้านอาหาร และที่สำคัญที่สุดคือการเดินทางคมนาคมที่สะดวก ใช้เวลาไม่มากก็ถึงเกาะ
เซนโตซานี้ไม่ได้มีเฉพาะบ่อนกาสิโน แต่ยังมีที่ท่องเที่ยวไล่เรียงมาตั้งแต่ธรรมชาติอย่างภูเขา ชายทะเล ที่คนสามารถเดินป่าหรือเล่นทะเลเดินชายหาด ที่ถึงแม้จะไม่ใช่ชายหาดธรรมชาติแต่ความสวยงามก็ไม่ได้เป็นรอง ยังมีสนามกอล์ฟ โรงแรม ร้านอาหารมากมาย และที่สำคัญคือมีสวนสนุกขนาดใหญ่อย่าง Universal Studio และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ สวนน้ำ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง
หากคุณเคยไปเซนโตซา จะพบว่ามันคือเกาะสวรรค์ที่มีความสุขอย่างแท้จริง เพราะการเดินทางก็แสนสะดวกด้วยรถไฟฟ้า และการบริหารจัดการเกาะก็เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวอย่างมาก มีความสะอาด มีความสะดวก และตอบสนองต่อนักท่องเที่ยวหลายระดับ มิเพียงเฉพาะผู้ที่มีเงินมากเท่านั้น
เกาะเซนโตซานี้ มิใช่เพิ่งมีหรือเกิดขึ้นไม่นาน แต่แท้จริงแล้วคือโปรเจกต์อายุกึ่งทศวรรษที่ริเริ่มโดยรัฐบาลสิงคโปร์เมื่อเกือบ 50 กว่าปีก่อน และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนกลายเป็นเกาะแห่งความสนุกในปัจจุบัน ที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 20 ล้านคนต่อปี ซึ่งถือว่าเยอะมาก พูดได้ว่านักท่องเที่ยวเกือบทุกคนที่ไปเที่ยวสิงคโปร์จะต้องไปเที่ยวที่เกาะนี้
แต่เซนโตซาก็มิใช่เพียงโปรเจกต์เดียวของรัฐ ที่พยามใช้เงินบันดาลสถานที่ท่องเที่ยวขึ้น เพราะข้อจำกัดทั้งทางด้านธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกาะสิงคโปร์นี้ขาดอัตลักษณ์หรือสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ทุกอย่างจึงถูกคิดและรังสรรค์ขึ้น อาทิ Marina Bay เป็นต้น เช่นเดียวกับโมเดลของเมืองลาสเวกัสในสหรัฐที่อยู่กลางทะเลทราย ไร้สิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ใช้กาสิโนและ Entertainment complex เป็นเรือธง และก็ถือเป็นโมเดลแห่งความสำเร็จมาจนปัจจุบัน
ประเทศไทยเรานั้นมีศักยภาพมาก มีต้นทุนทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สามารถต่อยอดได้ มิใช่เกาะร้างที่สร้างด้วยคอนกรีต หรือดินแดนทะเลทรายแห้งแล้ง ดังนั้นการจะสร้าง Entertainment complex ที่แน่นอนว่าจะดึงรายได้มหาศาลนั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงต้นทุนเหล่านี้ด้วย และที่สำคัญที่สุดคือการเข้าถึงของคนไทย และการกระจายรายได้สู่มือคนไทยของเราเอง