‘แฮร์ริส-ทรัมป์’ เตรียมตัวเข้ม ดีเบต 10 ก.ย.
รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เดินทางไปยังเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิสำคัญตั้งแต่วันพฤหัสบดี (5 ก.ย.) เพื่อใช้เวลาห้าวันเตรียมการประชันวิสัยทัศน์กับโดนัลด์ ทรัมป์ ในสัปดาห์หน้า
การดีเบตครั้งแรกระหว่างแฮร์ริสกับทรัมป์จะมีขึ้นในวันที่ 10 ก.ย. ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ก่อนวันนั้นจะมาถึงรองประธานาธิบดีเตรียมตัวที่เมืองพิตส์เบิร์กใช้เวลาวางกลยุทธ์หาแนวรุกกับที่ปรึกษา ระหว่างนี้เธอไม่มีกำหนดการหาเสียง แต่อาจจะไปพบโหวตเตอร์บ้างแบบไม่เป็นทางการ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การลงสู่สนามเลือกตั้งประธานาธิบดีของแฮร์ริสช่วยสร้างความคึกคักให้กับสมาชิกพรรคเดโมแครตมากมาย หลังถอดใจกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนมาแล้ว อย่างไรก็ตามทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันเชื่อว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พ.ย.ระหว่างแฮร์ริสกับทรัมป์จะสูสีกันมาก คะแนนชี้ขาดจะอยู่ที่เพนซิลเวเนีย, จอร์เจีย และรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของฝ่ายใด (สวิงสเตต) อีกจำนวนหนึ่ง
การดีเบตครั้งนี้ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นการหาเสียงเข้มข้นเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างแฮร์ริสกับทรัมป์ เพราะอดีตประธานาธิบดีรายนี้ไม่เข้าร่วมงานสาบานตนของไบเดน หลังจากอ้างว่าตนถูกโกงการเลือกตั้งเมื่อปี 2020
การเตรียมตัวที่เพนซิลเวเนียของแฮร์ริสชวนให้นึกถึงการเก็บตัวหนึ่งสัปดาห์ที่แคมป์เดวิดของไบเดน ก่อนดีเบตกับทรัมป์ในวันที่ 27 มิ.ย. ซึ่งถือเป็นการปิดฝาโลงการหาเสียงของเขา รอบนี้แฮร์ริส จ้างคาเรน ดันน์ หัวหน้าทีมดีเบตของบารัก โอบามาในปี 2012 และฮิลลารี คลินตันในปี 2016 รวมถึงโรฮินี โคโซกลู ที่ปรึกษานโยบายระดับสูงมาร่วมงาน
ด้านทรัมป์ วัย 78 ปี ไม่น้อยหน้า เผยว่ากำลังเตรียมตัวเหมือนกันเช่นเดียวกับตอนดีเบตกับไบเดน ทั้งการปราศรัยหาเสียงและหารือนโยบายกับที่ปรึกษาใกล้ชิด
อย่างไรก็ตามทรัมป์กล่าวระหว่างทาวน์ฮอล์ของฟ็อกซ์นิวส์ในเพนซิลเวเนียเมื่อวันพุธ (4 ก.ย.) กล่าวหาสถานีโทรทัศน์เอบีซี ผู้จัดดีเบตและผู้ประกาศข่าวชื่อดังของช่องคนหนึ่งอย่างไร้หลักฐานว่า “น่ารังเกียจ” ให้แฮร์ริสดูคำถามก่อนล่วงหน้า
“พวกเขาน่ารังเกียจมากๆ ผมคิดว่าหลายคนจะรอดูว่าพวกเขาน่ารังเกียจขนาดไหน ไม่เป็นธรรมขนาดไหน” ทรัมป์โอดครวญ
การดีเบตในวันที่ 10 ก.ย. ผู้สัดทันกรณีรายหนึ่งเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทีมหาเสียงของแฮร์ริสยอมรับกติกาที่กำหนดไว้ รวมถึงการปิดไมโครโฟนเมื่อฝ่ายตรงข้ามพูด แต่ยังมีความหวังว่าจะมีช่วงเวลาเปิดไมค์ให้ตอบโต้ได้บ้าง
ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแฮร์ริสเรียกร้องทรัมป์ ประชันวิสัยทัศน์กับเธอแบบเปิดไมโครโฟนตลอดงาน หรือ “ไมค์ด่วน” ซึ่งวิธีนี้อาจช่วยหรือทำร้ายผู้สมัครได้ ในกรณีเผลอหลุดปากบางสิ่งบางอย่างออกมา นอกจากนี้การปิดไมค์ยังช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ร่วมดีเบตป่วนคู่แข่งได้ด้วย
เจสัน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์กล่าวว่า เขาตื่นเต้นมากที่แฮร์ริสและทีมงานยอมรับกติกาดังกล่าว
นอกจากคู่ชิงประธานาธิบดีแล้ว ทิม วอลซ์และเจดี แวนซ์ ผู้สมัครรองประธานาธิบดีจากเดโมแครตและรีพับลิกันต่างเห็นชอบดีเบตกันในวันที่ 1 ต.ค. จัดโดยซีบีเอสนิวส์ด้วย