‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

พายุไต้ฝุ่นยางิ ทำเศรษฐกิจเวียดนามเสียหายราว 1,600 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5.3 หมื่นล้านบาท พายุดังกล่าวได้คร่าชีวิตประชาชนในเวียดนาม 292 ราย สูญหาย 38 บ้านเรือนพังทลายกว่า 230,000 หลัง และพื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 1.75 ล้านไร่

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำให้มีฝนตกหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและแผ่นดินถล่ม คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 400 ราย

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

 

ในเวียดนาม พายุดังกล่าวพัดผ่านสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดงที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งเป็นภูมิภาคการเกษตรที่เป็นบ้านของศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญมากมาย พายุได้สร้างความเสียหายต่อโรงงานและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรม

รัฐบาลประเมินเบื้องต้น คาดว่า พายุลูกนี้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 1,600 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5.3 หมื่นล้านบาท และทำให้เวียดนามสูญเสียประชาชนไป 292 ราย สูญหาย 38 ราย และบ้านเรือนประชาชนพังทลายมากกว่า 230,000 หลัง ขณะที่พื้นที่การเกษตรเสียหาย 280,00 เฮกตาร์ หรือราว 1.75 ล้านไร่

ขณะที่รัฐบาลเมียนมารายงานว่า ภัยพิบัติน้ำท่วมทำให้เมียนมามีผู้เสียชีวิตสูงถึง 113 ราย และประชาชนมากกว่า 320,000 คนต้องพลัดถิ่นไปอยู่ค่ายพักพิงชั่วคราว

ชีลา แมทธิว โฆษกจากโครงการอาหารโลกในเมียนมา กล่าวว่า “ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ และเกิดน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมียนมา”

เอเอฟพีเผยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงครั้งที่ผ่านมาในปี 2554 และปี 2558 มีคนเสียชีวิตมากกว่า 100 คน ขณะที่พายุไซโคลนนาร์กิสส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายมากกว่า 138,000 ราย

วิกฤติจากภัยธรรมนี้ล่าสุดนี้ ทำให้พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ จากปกติที่รัฐบาลทหารเมียนมามักปฏิเสธหรือขัดขวางความช่วยเหลือจากนอกประเทศ ขณะที่เพื่อนบ้านอย่างอินเดียได้เสนอให้ความช่วยเหลือด้วยการส่งมอบอาหารและสิ่งของจำเป็นราว 10 ตัน ทั้งอาหารแห้ง เสื้อผ้าและยา