‘เรย์ ดาลิโอ’ ชี้ ผู้นำจีนเผชิญ ‘ช่วงเวลาที่ต้องทำทุกวิถีทาง’ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ

‘เรย์ ดาลิโอ’ ชี้ ผู้นำจีนเผชิญ ‘ช่วงเวลาที่ต้องทำทุกวิถีทาง’ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ

‘เรย์ ดาลิโอ’ มหาเศรษฐีชื่อดังมองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของจีนอาจเป็น ‘จุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์’ หากรัฐบาลปักกิ่งทำได้ตามที่สัญญาไว้ เปรียบเสมือนการทำซ้ำความสำเร็จของมาริโอ ดรากีที่เคยช่วยยุโรปพ้นวิกฤติ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “เรย์ ดาลิโอ” มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Bridgewater Associates เผยว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรุนแรงของจีนจะเป็นจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์สำหรับเศรษฐกิจอันดับสองของโลก หากผู้กำหนดนโยบายในปักกิ่งสามารถส่งมอบได้ “มากกว่า” ที่ได้สัญญาไว้

ความเห็นของเรย์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากหุ้นจีนทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รุนแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ย และการอนุญาตให้โบรกเกอร์เข้าถึงเงินทุนของธนาคารกลางเพื่อซื้อหุ้น อีกทั้งผู้นำระดับสูงของจีนยังได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการใช้จ่ายทางการคลังและทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหามีเสถียรภาพ

ในโพสต์บน LinkedIn เมื่อวันจันทร์ ดาลิโอได้เปรียบเทียบการดำเนินการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับช่วงเวลาปี 2012 เมื่อมาริโอ ดรากี อดีตประธานธนาคารกลางยุโร ได้ให้คำมั่นว่าจะ “ทำทุกวิถีทาง” เพื่อรักษาค่าเงินยูโร คำพูดของดรากีในครั้งนั้นช่วยยุติวิกฤตหนี้สินในยุโรปช่วงนั้นได้

“นี่เป็นสัปดาห์ที่ยิ่งใหญ่” ดาลิโอเขียนไว้ “ในความเป็นจริง ผมคิดว่าเป็นสัปดาห์ที่สำคัญมากจนสามารถบันทึกลงในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจตลาดได้ ตราบเท่าที่ผู้กำหนดนโยบายของจีน ‘ทำทุกวิถีทาง’ ซึ่งต้องการมากกว่าสิ่งที่ได้ประกาศออกมา”

นอกจากนี้ เรย์ยังเสนอแนะให้รัฐบาลปักกิ่งปรับโครงสร้างหนี้เสีย ขณะเดียวกันก็สร้างเงินเพิ่มเพื่อลดภาระหนี้ภาคบริการ โดยไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อมากเกินไป

ดาลิโอยังเตือนว่า การลดหนี้จะทำให้รู้สึกเจ็บปวด เพราะจะทำลายความมั่งคั่งและนำไปสู่การกล่าวหาว่าใครจะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจากการสูญเสียหนี้ อีกทั้งการลดลงของประชากรในวัยทำงาน และประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น ได้ทำให้ความท้าทายของจีนซับซ้อนมากยิ่งขึ้น 

“แม้ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเห็นการกระทำและคำพูดที่ยอดเยี่ยม ซึ่งผมแน่ใจว่าจะตามมาด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะช่วยสนับสนุนราคาสินทรัพย์ แต่มีสิ่งสำคัญอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ต้องจับตามองดูว่า จีนจะรับมือกับความท้าทายด้านหนี้สินภายในประเทศได้ดีเพียงใด” ดาลิโอกล่าว


อ้างอิง: bloomberg