ประชุมอาเซียน-จีน คุกรุ่น 'ฟิลิปปินส์' เรียกร้องเร่งเจรจาปัญหาทะเลจีนใต้

ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 27 เมื่อวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) อบอวลไปด้วยบรรยากาศคุกรุ่น เนื่องจากเฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้เอ่ยปากท้าทาย “หลี่ เฉียง” นายกรัฐมนตรีจีนเกี่ยวกับการปะทะกันระหว่างสองฝ่ายในทะเลจีนใต้ ท่ามกลางความกังวลว่าความตึงเครียดนี้อาจปะทุขึ้นในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาท

นักการทูตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนหนึ่ง เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ปธน.มากอสได้ยกประเด็นปัญหาความขัดแย้งในทะเลจีนใต้มาพูดในที่ประชุมกับนายกฯหลี่ โดยโต้แย้งว่า “คุณไม่สามารถแยกความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ออกจากความมั่นคงทางการเมืองได้”

นักการทูตรายนั้นเผย ปธน.มากอสบอกในที่ประชุมว่า อาเซียนและจีนไม่สามารถแสร้งทำว่าทุกอย่างในด้านเศรษฐกิจนั้นดำเนินไปได้ด้วยดี เมื่อมีความตึงเครียดทางการเมืองเกิดขึ้น และว่าทั้งสองฝ่ายควรเร่งให้มีการเจรจาเกี่ยวกับจรรยาบรรณทางทะเล

ตามแถลงร่างแถลงของประธานการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เอเอฟพีได้อ่านระบุว่า บรรดาผู้นำอาเซียนได้เรียกร้องให้มีความยับยั้งชั่งใจและเคารพกฎหมายระหว่างในทะเลจีนใต้ในการประชุมเมื่อวันพุธ (9 ต.ค.) และลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวในที่ประชุมในวันนั้นว่า “ทะเลจีนใต้คือเป็นปัญหาที่ยังมีอยู่และมีความเร่งด่วน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุและกลายเป็นความขัดแย้งขึ้นมาจริงๆ”

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เรือของจีนและฟิลิปปินส์เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงในบริเวณน่านน้ำรอบ ๆ แนวปะการังและเกาะที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้

เอเอฟพีระบุว่า การปะทะกันที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้นในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดความกังวลว่าสถานการณืในพื้นที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น

ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งได้อ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางน้ำที่มีความสำคัญเชิงยุทศาสตร์อย่างมาก เนื่องจากมีการขนส่งทางการค้ามูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ในทุกปี ส่วนชาติอาเซียนหลายประเทศ ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และบรูไน ต่างก็มีการอ้างสิทธิเหนือเกาะเล็ก ๆ และแนวปะการังหลายแห่งในน่านน้ำดังกล่าวเช่นกัน