60 ปี การทูต‘ไทย-สิงคโปร์’ สัมพันธ์ลึกซึ้งทุกระดับ l World Pulse
ในบรรดา 10 ประเทศสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ทุกประเทศล้วนมีความสัมพันธ์ทวิภาคีที่สนิทสนมกันภายใต้บริบททางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และประวัติศาสตร์
ในปี 2568 เป็นวาระครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ ถ้าเป็นคนก็ถึงวัย “แซยิด” ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก จึงนับเป็นหมุดหมายที่ดีในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
อย่างที่กล่าวในฉบับก่อนว่า World Pulse เพิ่งกลับจากการไปร่วมงาน Global Lifelong Learning Summit 2024 ที่สิงคโปร์เมื่อช่วงต้นเดือน แถมสัปดาห์ก่อนมีโอกาสพบปะกับเจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย มีเรื่องให้พูดคุยกันมากมาย ชวนให้คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันในหลายระดับที่นับย้อนไปได้ถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
ข้อมูลจากเพจ Royal Thai Embassy, Singapore - สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2561 สารจากนายมานพชัย วงศ์ภักดี เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ (ณ ขณะนั้น) ความตอนหนึ่งระบุ
“แม้ว่าประเทศไทยและสิงคโปร์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี พ.ศ. 2508 แต่เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ จะพบว่ารากฐานความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ เริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่สมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ นายตัน กิม เจ็ง ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน เป็นกงสุลใหญ่คนแรกของไทยประจำสิงคโปร์เมื่อปี 2406 และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2414 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์ พร้อมพระราชทานช้างสำริดให้กับสิงคโปร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงการเสด็จฯ เยือนสิงคโปร์เป็นครั้งแรก (ปัจจุบัน รูปปั้นช้างไทยสำริดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาหลังเก่า) และทรงซื้อที่ดิน พร้อมอาคาร “Hurricane House” โดยที่ดินแปลงดังกล่าวได้สืบทอดมาเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในปัจจุบัน”
ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่หลังจากสิงคโปร์แยกตัวจากสหพันธรัฐมาเลเซีย เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2508 ก็ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยในวันที่ 20 ก.ย. ปีเดียวกัน เรียกได้ว่าสถาปนาประเทศปุ๊บก็เป็นเพื่อนกันเลย แถมในวันที่ 10 ส.ค.2510 ไทยและสิงคโปร์ รวมถึงมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ร่วมกันก่อตั้งอาเซียนขึ้นเป็นองค์การความร่วมมือระดับภูมิภาคท่ามกลางบรรยากาศสงครามเย็นสะเทือนโลก
ที่กล่าวมานี้คือภาพรวมความสัมพันธ์ระดับรัฐบาลกับรัฐบาล มาดูระดับประชาชนกันบ้าง World Pulse ประทับใจกับสิงคโปร์เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นประเทศแรกที่ได้นั่งเครื่องบินไปเยือนในฐานะนักท่องเที่ยว จากที่ปกติการไปต่างประเทศมักหมายถึงแค่การข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น นอกจากนี้ปลายปี 2560 World Pulse ได้เข้าร่วมโครงการ ASEAN Visiting Journalist Program (AVJP) ของรัฐบาลสิงคโปร์ เนื่องในโอกาสที่สิงคโปร์จะเป็นประธานอาเซียนในปี 2561 การร่วมโครงการ AVJP ได้สร้างเครือข่ายผู้สื่อข่าวในภูมิภาคที่ทุกวันนี้ก็ยังแลกเปลี่ยนข่าวสารและไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่เสมอ
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้จดจำสิงคโปร์ได้เป็นพิเศษจากทริปนี้คือ ทันทีที่ลงเครื่องบิน ณ สนามบินชางงี World Pulse ได้มีโอกาสพบเจอกับ “น้องเอม” และ “น้องอิ๊งค์” สองศรีพี่น้องคนดังของไทย ก็ทักทายกันตามประสา สองอนงค์กริยามารยาทเรียบร้อยยกมือไหว้ตอนทักทายและร่ำลาอย่างงดงาม พูดคุยอย่างไม่ถือเนื้อถือตัว ตอนนั้นไม่คิดเลยว่า “น้องอิ๊งค์” ที่เคยเอ่ยปากทักจะกลายมาเป็น “นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร” ในวันนี้
พูดถึงนายกฯ แพทองธารก็นึกขึ้นได้ว่าปีนี้ไทยกับสิงคโปร์มีอะไรคล้ายๆ กันนั่นคือการได้ผู้นำคนใหม่ นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง สาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 15 พ.ค. หลังจากนายกรัฐมนตรีลี เซียนหลุง ส่งสัญญาณมานานว่าจะลงจากตำแหน่งถ่ายโอนอำนาจให้ผู้นำรุ่นใหม่ได้รับช่วงต่อ ถัดมาสามเดือน วันที่ 16 ส.ค. สภาผู้แทนราษฎรของไทยลงมติเลือกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีสืบต่อจากนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งนายกฯ หว่องก็เป็นผู้นำคนแรกๆ ที่โทรศัพท์มาแสดงความยินดีกับนายกฯ อิ๊งค์ เป็นที่ฮือฮากันในโซเชียลมีเดีย ในการประชุมผู้นำอาเซียนที่ลาวเมื่อเดือนก่อน นายกฯ ไทยกับนายกฯ สิงคโปร์พูดคุยกันอย่างสนิทสนมเป็นกันเอง อ่านภาษากายสัมผัสได้ถึงความเข้าอกเข้าใจ แว่วๆ ว่า ต้นปีหน้านายกฯ หว่องจะมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต แต่จะมาวันไหนยังไม่คอนเฟิร์มต้องรอติดตามข่าว ระหว่างที่รอวาระพิเศษจะมาถึงสถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ขอเชิญชวนประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตสิงคโปร์-ไทยในปี 2568
ผู้ชนะเลิศการประกวดจะได้รับรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (กรุงเทพฯ/ภูเก็ต-สิงคโปร์) จำนวน 1 ใบ พร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืน และเงินสดจำนวน 40,000 บาท ผลงานที่ชนะการประกวดจะนำมาใช้ในกิจกรรมเฉลิมฉลองที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 โดยการออกแบบตราสัญลักษณ์ควรมีการนำธีม “Singapore-Thailand: Realising Opportunities for New Growth – STRONG @ 60" มาใช้ในการออกแบบ เริ่มส่งผลงานได้จนถึงวันที่ 15 พ.ย.2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถานทูตสิงคโปร์ โทร 02 348 6700 หรือที่เพจ Singapore Embassy in Bangkok
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา เป็นภาพรวมความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ฉบับย่อ จากมุมมองคนที่เคยสัมผัสสิงคโปร์มาบ้าง ประสบการณ์ของประชาชนแต่ละคนเปรียบเสมือนตัวจิ๊กซอว์ เมื่อนำชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาต่อเข้าด้วยกันกลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศชิ้นใหญ่ให้ภาพชัด และมีแต่จะเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า