ประธานเฟดลั่น‘ไม่ลาออก’หากทรัมป์สั่ง

ประธานเฟดลั่น‘ไม่ลาออก’หากทรัมป์สั่ง

ประธานธนาคารกลางสหรัฐเผยจะไม่ลาออกหากโดนัลด์ ทรัมป์สั่ง บีบีซีวิเคราะห์ความเป็นอิสระของเฟดอาจจะสั่นคลอน

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในงานแถลงข่าวหลังการประชุมเฟดซึ่งตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง0.25%เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.) ตามเวลาประเทศไทยว่า ผลการเลือกตั้งสหรัฐจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการตัดสินใจเชิงนโยบายในระยะเวลาอันใกล้นี้ 

“เราไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเราจึงไม่รู้ว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร” 

 “เราไม่เดา ไม่คาดเดา และเราไม่คาดเดาว่าตัวเลือกนโยบายของรัฐบาลในอนาคตจะเป็นอย่างไร” นายพาวเวลล์กล่าว 

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าเขาได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่คนอเมริกันคิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจจากผลการเลือกตั้งหรือไม่ ประธานเฟดบอกว่าเขาจะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง นักข่าวถามพาวเวลล์ในเวลาต่อมาว่าเขาจะลาออกหรือไม่หากทรัมป์สั่งเขา “ไม่” เขากล่าว

ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง อาจกระทบความเป็นอิสระของธนาคารกลาง

บีบีซีรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอาจจะหาทางควบคุมธนาคารกลางเพื่อที่จะลดดอกเบี้ยลงเร็วขึ้นตามที่ทรัมป์สัญญาไว้ในช่วงหาเสียง

คนทั่วไปเพิ่งได้รับฟังประธานเฟดให้สัมภาษณ์ในขณะที่เขาเผชิญหน้ากับผู้สื่อข่าวที่ต้องการอยากรู้ว่าว่าธนาคารกลางสหรัฐจะตอบสนองต่อรัฐบาลใหม่ภายใต้การบริหารของทรัมป์อย่างไร ซึ่งเป็นคำถามที่ยุ่งยากสำหรับพาวเวลล์

เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานเฟดโดยทรัมป์ แต่พบว่าตัวเองถูกทรัมป์วิจารณ์ในที่สาธารณะและบ่อยครั้งอย่างหยาบคายระหว่างดำรงตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์ ในฤดูใบไม้ผลินี้ Wall Street Journal รายงานว่า พันธมิตรของทรัมป์กำลังร่างแผนการที่จะนำเฟดมาอยู่ภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดีมากขึ้น ในระหว่างหาเสียงทรัมป์ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย 

ทรัมป์บอกกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กไม่กี่เดือนต่อมาว่า เขาจะปล่อยให้พาวเวลล์ดำรงตำแหน่งจนครบตามวาระ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผมคิดว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง” ทรัมป์ยังระบุด้วยว่าเขาเชื่อว่าเขาควรมีสิทธิ์พูดเรื่องนโยบายดอกเบี้ย

หลักการของเศรษฐกิจกระแสหลัก เชื่อว่าความเป็นอิสระเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธนาคารกลาง โดยมีข้อสังเกตว่าในอดีตนั้น ความเป็นอิสระของธนาคารกลางมีความเกี่ยวพันกับอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำลงและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า นโยบายของทรัมป์ที่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสูง จะทำให้เงินเฟ้อในสหรัฐสูงขึ้น ทรัมป์ประกาศจะขึ้นภาษีศุลกากรระดับ 10-20% สำหรับสินค้าจากทุกประเทศและ อัตรา 60% สินค้าจีน

นาตาลี เชอร์แมน ผู้สื่อข่าวธุรกิจที่นิวยอร์กของบีบีซีสรุปว่า หากทรัมป์ทำจริงแสดงว่าเขารู้สึกสบายใจอย่างยิ่งที่จะฝืนแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนาน