มาตรการกระตุ้นไม่พอ! หุ้นจีน ดิ่ง FDI หาย 4 แสนล้านบาทใน 9 เดือน
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนไม่ตอบโจทย์! ตลาดหุ้นจีนร่วง หลังนักลงทุนผิดหวังกับมาตรการของจีนที่เน้นแก้ปัญหาหนี้สินมากกว่ากระตุ้นการบริโภค โดยการลงทุนจีนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ลดลงกว่า 4 แสนล้านบาทใน 9 เดือนแรก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นจีน ในฮ่องกง “ปรับตัวร่วง” หลังการประชุมสภานิติบัญญัติระดับสูงของจีนไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของนักลงทุนที่หวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ออกมา เพื่อฟื้นฟูความต้องการภายในประเทศ และต่อสู้กับภาวะเงินฝืด
ดัชนีหุ้นจีนในฮ่องกงอย่าง Hang Seng China Enterprises Index ลดลง 1.6% ณ เวลา 13:19 น. โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และผู้บริโภคเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนดัชนี CSI 300 มีความผันผวน โดยพลิกจากการลดลง 1.4% มาเป็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อย ดัชนีหุ้นของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนของ Bloomberg Intelligence ร่วงลงอย่างรวดเร็วมากกว่า 6%
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลจีนครั้งล่าสุด ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างหลากหลาย โดยนักลงทุนไม่น้อยรู้สึกผิดหวังที่มาตรการดังกล่าวให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นมากกว่าการกระตุ้นการบริโภคของประชาชน ซึ่งขัดแย้งกับความคาดหวังของตลาดที่ต้องการมาตรการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนสูงขึ้นหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ข้อมูลจากจีนที่เผยแพร่ในช่วงสุดสัปดาห์ได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการสนับสนุนการเติบโตมากขึ้น อัตราการเติบโตของราคาผู้บริโภคยังคงใกล้เคียงกับศูนย์ โดยธนาคาร UBS ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของจีนในปี 2025 หลังจากการเลือกตั้งของทรัมป์ โดยคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 4% ในปี 2025 และเติบโตในอัตราที่ “ต่ำกว่ามาก” ในปี 2026
เชตัน เซท จากโนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของจีนเน้นการรักษาเสถียรภาพมากกว่าการกระตุ้นการเติบโต จึงน่าจะทำให้บรรดานักลงทุนผิดหวัง เนื่องจากขาดมาตรการสำคัญ เช่น การช่วยเหลือธนาคารหรือกระตุ้นการบริโภค แม้ตัวเลขการแลกเปลี่ยนหนี้จะออกมาดีกว่าคาดก็ตาม
ทั้งนี้ บริษัทต่างชาติยังคงถอนเงินออกจากจีน เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจที่มืดมนลง การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศลดลงเกือบ 13,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4 แสนล้านบาทในช่วงเก้าเดือนแรกของปี ซึ่งเป็นสัญญาณว่า นักลงทุนบางรายยังคงมองโลกในแง่ร้าย แม้ว่ารัฐบาลปักกิ่งจะเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ก็ตาม
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้ประกาศมาตรการสนับสนุนทางการเงินให้กับภาคอุตสาหกรรม เพื่อกระตุ้นให้การค้าต่างประเทศเติบโตอย่างมั่นคง โดยผู้นำจีนจะกำหนดนโยบายเศรษฐกิจหลักสำหรับปีถัดไป รวมถึงตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ การขาดดุลงบประมาณ และอัตราเงินเฟ้อ
“ผมรู้สึกว่ามีความเชื่อและในบางแง่มุมว่า บางทีรัฐบาลจีนกำลังรอคอย บางทีรอให้รัฐบาลทรัมป์เริ่มต้นบริหาร” แอนดี้ เมย์นาร์ด กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายหุ้นของ China Renaissance Securities กล่าวถึงผู้กำหนดนโยบายของจีน
อ้างอิง: bloomberg