รัสเซียถล่มยูเครนครั้งใหญ่สุดตั้งแต่เดือน ก.ย. พุ่งเป้าโครงสร้างพลังงาน

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมารัสเซียระดมยิงขีปนาวุธและโดรนเข้าใส่พื้นที่ต่างๆ ของยูเครน เสียงไซเรนโจมตีทางอากาศดังสนั่นหวั่นไหวทั่วประเทศ แม้ยูเครนเคยเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้หลายครั้ง  แต่นี่เป็นการโจมตีที่มีการประสานงานครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน และเป็นอีกครั้งที่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและสถานีส่ง ดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายหลัก

 เมื่ออุณหภูมิลดลงและหิมะเริ่มตก เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าสถานการณ์ในฤดูหนาวนี้จะยากลำบากอีกครั้ง  เมืองมิโคเลฟ ทางตอนใต้ของยูเครน เป็นเมืองหนึ่ง

ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายและบาดเจ็บอีกหลายคน

 ไกลออกไปทางใต้ ท่าเรือโอเดสซาในทะเลดำประสบปัญหาไฟฟ้าดับทั่วเมือง และไม่ใช่ครั้งแรกที่โปแลนด์ต้องส่งเครื่องบินรบขึ้นสกัดขณะขีปนาวุธมุ่งหน้าสู่ยูเครนตะวันตก และในเมืองหลวงเคียฟ เศษชิ้นส่วนจากขีปนาวุธและโดรนที่ถูกยิงสกัดกั้นได้ตกลงไปในหลายสถานที่ แต่ไม่มีรายงานการบาดเจ็บ

• รัสเซียตั้งเป้าทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนโพสต์บน Telegram ว่า  รัสเซียยิงขีปนาวุธประมาณ 120 ลูกและโดรน 90 ลำระหว่าง “การโจมตีพร้อมกันครั้งใหญ่ในทุกภูมิภาคของยูเครน” โดยรัฐบาลมอสโกกำลังมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน

เซเลนสกีเผยด้วยว่า ตนได้รับรายงานว่าบางพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และกำลังดำเนินการฟื้นฟู ขณะที่การป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนได้ทำลายเป้าหมายมากกว่า 140 เป้าหมาย

•ไฟดับฉุกเฉินครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายสามแห่ง

DTEK ผู้ให้บริการพลังงานรายใหญ่ที่สุดของยูเครน โพสต์ผ่าน Telegram เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ตามเวลายูเครนว่า กรุงเคียฟเป็นหนึ่งในสามภูมิภาคที่ประสบปัญหาไฟฟ้าดับเช่นเดียวกับภูมิภาคโดเนตสค์และดนีโปรเปตรอฟสค์ สอดคล้องกับรายงานที่ระบุว่าการโจมตีของรัสเซียมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานบางส่วนของยูเครน 

ก่อนหน้านี้ นายเยอรมัน กาลุชเชนโก้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของยูเครน เรียกการโจมตีดังกล่าวว่า “เป็นการโจมตีครั้งใหญ่อีกครั้งต่อระบบพลังงานของเรา” รัสเซียกำลังโจมตีโรงงานผลิตและส่งไฟฟ้าทั่วยูเครน