ซี้ปึ้ก! ‘ทรัมป์’ ชม SpaceX ปล่อยจรวดกับ ‘อีลอน มัสก์’

รอยเตอร์สรายงานว่า ยานอวกาศที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถพานักบินอวกาศลงจอดยานบนดวงจันทร์ได้ และเพื่อนำส่งลูกเรือไปยังดาวอังคาร ซึ่งมีความสูงราว 400 ฟุตนั้น ปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อเวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น จากศูนย์พัฒนาจรวดของสเปซเอ็กซ์ในเมืองโบกาชิกา รัฐเท็กซัส

หลังปล่อยจรวด ชิ้นส่วน Super Heavy ซึ่งเป็นจรวดส่วนแรก (first stage booster) ที่ยาว 233 ฟุต แยกออกจากจรวดส่วนที่ 2 ของ Starship ที่ระดับความสูงประมาณ 40 ไมล์ เพื่อส่งยานขึ้นสู่อวกาศ

แต่ Super Heavy ตกลงในอ่าวเม็กซิโกอย่างไม่คาดคิด แทนที่จะตกลงสู่ฐานแขนกลไกขนาดใหญ่ที่ติดอยู่กับหอส่งจรวดเพื่อรอรับการลงจอด ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติ

นอกจากนี้ ในไลฟ์แยกของสเปซเอ็กซ์ และ Everyday Astronaut เผยให้เห็นว่า Super Heavy ระเบิดหลังจากตกลงอ่าว

เมื่อเดือนก่อนสเปซเอ็กซ์ได้มีการสาธิตการจับจรวดด้วยแขนกล และการลงจอดจรวดแบบใหม่เป็นครั้งแรก ถือเป็นก้าวสำคัญในการออกแบบจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

ขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็มีความสนใจกับเทคนิคการจับและการลงจอดแบบใหม่เมื่อวันที่ 14 ต.ค. มาก และได้กล่าวถึงการลงจอดดังกล่าวในเวทีหาเสียงเมื่อเดือนก่อนด้วย

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมภารกิจครั้งนี้ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมากกว่า โดยยานอวกาศสตาร์ชิปได้เดินทางโคจรรอบโลกราว 1 ชั่วโมง ก่อนจะตกลงสู่มหาสมุทรอินเดียถัดจากนั้น และยานสามารถเปิดการทำงานของเครื่องยนต์บนยานได้อีกครั้ง ถือเป็นครั้งแรกที่สามารถติดเครื่องยนต์ในอวกาศได้ และถือเป็นการทดสอบความคล่องตัวครั้งแรกที่สเปซเอ็กซ์เคยลองทำ แต่ไม่สำเร็จในการบินครั้งก่อนๆ

ด้านบิล เนลสัน ผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ นาซา (NASA) ที่อาจไม่ได้ดำรงตำแหน่งหากทรัมป์ขึ้นมาเป็นปธน. ได้ออกมาแสดงความยินดีกับสเปซเอ็กซ์ผ่านแพลตฟอร์ม X โดยระบุว่า การสตาร์ตเครื่องยนต์ในอวกาศของยานสตาร์ชิปอีกครั้ง ถือเป็น “ความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการส่งยานสู่วงโคจร”

ทั้งนี้ การที่ทรัมป์เข้าร่วมชมการปล่อยจรวด ถือเป็นการส่งสัญญาณความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของเขากับอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากชัยชนะเลือกของทรัมป์ด้วย โดยคาดว่ามัสก์อาจได้รับการปฏิบัติที่เป็นมิตรจากรัฐบาลสหรัฐ

มหาเศรษฐีมัสก์ ที่รวยที่สุดในโลกเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ ทั้งยังปรากฏตัวบนเวทีหาเสียงร่วมกับทรัมป์และให้เงินสนับสนุนทางการเมืองอย่างน้อย 119 ล้านดอลลาร์

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ทรัมป์เลือกมัสก์นั่งเก้าอี้ประธานกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยจำกัดการใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองของรัฐบาล

 

อ้างอิง: Reuters