ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ‘MBS’ แห่งซาอุดีอาระเบีย | กันต์ เอี่ยมอินทรา
โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงผู้นำในแต่ละประเทศ แต่ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่นำมาซึ่งวิสัยทัศน์ ทิศทางและความแปลกใหม่แก่ประเทศมีไม่มาก และหนึ่งในผู้นำกลุ่มนี้คือ มกุฎราชกุมารมุฮัมมัด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย
ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา ไล่ไปจนถึงปีหน้า มีการเปลี่ยนผู้นำในฝ่ายบริหารในหลายๆ ประเทศ
บ้างก็เป็นผู้นำหน้าใหม่ อาทิ แพทองธาร ชินวัตรของไทย, เคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ, ชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่น, ปราโบโว ซูเบียนโตของอินโดนีเซีย,ไล่ ชิงเต๋อของไต้หวัน หรือผู้นำหน้าเก่าที่หวนเข้าสู่อำนาจอีกครั้งอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐ ทั้งหมดทั้งมวลที่ไล่มานี้ เพื่อให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าโลกกำลังจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
หากสังเกตให้ดีจะพบว่า ในประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำนั้นมีอยู่ 2 ทาง คือ หนึ่ง ผู้นำทั่วไปที่ทำหน้าที่ตามขนบครรลอง ไม่ได้มีความคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่มากนัก ซึ่งในที่สุดชื่อเสียงก็ถูกลืม และสองผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่นำมาซึ่งวิสัยทัศน์ ทิศทางและความแปลกใหม่แก่ประเทศที่ควรค่าแก่การยกย่องและจดจำในหน้าประวัติศาสตร์ ที่น่าจะเป็นกรณีศึกษาซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อผู้นำรุ่นใหม่ ก็เช่น กรณีของซาอุดีอาระเบีย ที่ขณะนี้มกุฎราชกุมารมุฮัมมัด บิน ซัลมาน หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า MBS
ความเป็นคนหนุ่ม เพราะอายุเพียง 39 ปี (เกิด พ.ศ. 2528) ซึ่งถ้าเทียบกับนายกแพทองธารของไทย ก็น่าจะนับได้ว่ารุ่นเดียวกัน เพราะนายกของไทยนั้นอายุ 38 ปี (เกิด พ.ศ. 2529) และทั้งสองคนก็เกิดในเดือนสิงหาคม จึงนับได้ว่าเป็นผู้นำของประเทศที่มีอายุน้อยไล่เรี่ยกันมาก ซึ่งก็น่าจะมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศที่มีกำลังซื้อสูงอย่างซาอุดีฯ และ MBS ก็เป็นผู้นำที่มีอำนาจเต็มเพราะประเทศซาอุดีฯ นั้นมีระบบการเมืองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของแท้
และตั้งแต่ MBS ได้เข้ามามีอำนาจ จะเห็นได้ว่าซาอุดีฯ มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่างที่ใกล้ตัวคนไทยเรามากที่สุดก็คือ การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีฯ และไทย หลังจากยุติความสัมพันธ์ทางการทูตไปอย่างยาวนานนับสิบๆ ปี MBS ยังนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง เคลื่อนประเทศและสังคมเข้าสู่ความเป็นเสรีนิยมมากขึ้น
อาทิ การส่งเสริมสิทธิสตรี ตั้งแต่การเลือกตั้ง การรับเข้าทำงานในหน่วยงานของรัฐ การเปิดอนุญาตให้ทำใบขับขี่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวและเปิดสังคมให้มีความเสรี สนุกสนานมากขึ้น ตั้งแต่การอนุญาตให้มีโรงหนัง ซึ่งทำให้โรงหนังใหม่ๆ เปิดตัวมากกว่า 400 แห่ง งานรื่นเริ่งที่เกิดขึ้นมากมาย อาทิ การแข่งรถ หรือล่าสุดแฟชั่นโชว์สุดอลังการของ Elie Saab ที่มีนักร้องดังอย่างเซลีน ดิออน ไปร่วมร้องเพลงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
แฟชั่นโชว์นี้แม้จะไม่ดัง ไม่เป๊ะเท่าของ Victoria's Secret ที่ก็เพิ่งจัดไปไม่นานมานี้ที่นิวยอร์กซิตี้ แต่มันคือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของซาอุดีฯ เพราะต้องไม่ลืมว่า สถานที่จัดงานคือกลางกรุงริยาด ซึ่งไม่นานมานี้ดินแดนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่ค่อนข้างจำกัดสิทธิสตรี มีความเป็นอนุรักษนิยมสูง มีความเคร่งครัดในขนบธรรมเนียมและศาสนาอย่างมาก มีอำนาจที่ผูกขาดอยู่ในกลุ่มคนไม่กี่คนในประเทศ ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จนกระทั่งวันนี้ที่นักร้องดังอีกคนอย่าง เจโล ไปเต้นนุ่งน้อยห่มน้อยส่ายสะโพกและถ่ายทอดสดทั่วโลก
MBS ยังสนับสนุนการลงทุน และหนึ่งในโปรเจคที่สร้างความฮือฮาให้กับคนทั้งโลกก็คือ โครงการ “The Line” เมืองใหม่ที่จะสร้างเป็นแนวเส้นตรงยาวกว่า 170 กม. (พอๆ กับระยะทางระหว่างกทม.-หัวหิน) ซึ่งคือส่วนหนึ่งของโพรเจกต์ NEOM ที่จะเนรมิตเมืองใหม่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ และนี่มิใช่โพรเจกต์เดียวของ MBS ยังมีโพรเจกต์อีกมากทั้งในเชิงการลงทุนโครงสร้าง การท่องเที่ยว พลังงานและด้านสังคม
แน่นอนว่า MBS ก็ถูกวิจารณ์มากมายเช่นกัน อาทิ ในเรื่องของสิทธิมนุษยชน การใช้และควบรวมอำนาจ ความรุนแรง เป็นต้น และการได้รับแสงที่ทั่วโลกกำลังสนใจว่า MBS จะสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลงซาอุดีฯ ให้เป็นสวรรค์บนดินได้อย่างไร ก็จะมีเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เช่นเดียวกับนายกแพทองธารของไทย ที่ก็พอมีเมกะโพรเจกต์เช่นกัน และคนไทยทุกคนก็เอาใจช่วยขอให้บริหารงานให้ดี ให้เป็นที่ประจักษ์
โดยเฉพาะในประเทศพันธมิตรทางการค้า และยุทธศาสตร์การเมือง ที่ไทยเรามีความใกล้ชิดสนิทสนมด้วย