'ปูติน' ผ่านงบประมาณปี 68 ทุ่ม 'กลาโหม' 13.5 ล้านล้านรูเบิล มากเป็นประวัติการณ์
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผ่านงบประมาณปี 2568 จ่อใช้จ่ายด้านกลาโหม 13.5 ล้านล้านรูเบิล หรือมากกว่า 145,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นงบการทหารที่มากเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สงครามยูเครน-รัสเซีย ยังคงคุกรุ่น
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย อนุมัติแผนงบประมาณ โดยเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2568 เนื่องจากรัฐบาลมอสโกพยายามจะคว้าชัยสงครามในยูเครน
เว็บไซต์รัฐบาลระบุว่า งบประมาณด้านกลาโหมของชาติคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 32.5% ของงบประมาณรายปี โดยมีมูลค่ามากถึง 13.5 ล้านล้านรูเบิล (มากกว่า 145,000 ล้านดอลลาร์) เพิ่มจากสัดส่วนเดิมที่ระดับ 28.3%
ซีเอ็นบีซีรายงานเมื่อวันเสาร์ (30 พ.ย.) ว่า สมาชิกรัฐสภาในทั้งสองสภาของรัสเซีย ได้แก่ “สภาแห่งสหพันธรัฐและดูมาแห่งรัฐ” ได้อนุมัติงบประมาณดังกล่าวเมื่อ 10 วันก่อนหน้านั้น
การรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบของรัสเซียนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 ถือเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ของยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียทรัพยากรจำนวนมาก
'อียู' ให้คำมั่นสนับสนุนยูเครนต่อเนื่อง
รัฐบาลเคียฟได้เงินช่วยเหลือจากพันธมิตรตะวันตกหลายพันล้านดอลลาร์ แต่กองทัพรัสเซียนั้นมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธที่ดีกว่า และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียสามารถผลักดันกองทัพยูเครนให้ถอยร่นออกไปเรื่อยๆในพื้นที่ทางตะวันออก
อันโตนิโอ คอสตา ประธานสภายุโรปคนใหม่ และคาจา คัลลาส ประธานฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) เดินทางเยือนกรุงเคียฟเมื่อวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครนต่อเนื่อง
“ตั้งแต่วันแรกของสงคราม สหภาพยุโรปยืนเคียงข้างยูเครน และตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง เราขอยืนยันอีกครั้งถึงการสนับสนุนประชาชนชาวยูเครนอย่างไม่ลดละ” คอสตาโพสต์ในแพลตฟอร์ม X พร้อมรูปถ่ายของตัวเอง โดยมีคัลลาส และมาร์ตา คอส ประธานฝ่ายขยายของอียูรวมอยู่ด้วย
การเยือนของทั้งสองคนมีขึ้นหลังจากมีข้อสงสัยเกิดขึ้นว่ารัฐบาลเคียฟจะได้อะไรจากรัฐบาลสหรัฐที่นำโดยว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
คอสตา กล่าวในการงานแลถงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน โดยย้ำถึงความมุ่งมั่นของอียูที่จะช่วยเหลือยูเครนอย่างต่อเนื่องในสงคราม รวมถึงให้เงินสนับสนุนด้านงบประมาณแก่ยูเครน 4,200 ล้านยูโร (ราว 4,400 ล้านดอลลาร์) และเงินช่วยเหลือ 1,500 ล้านยูโร (1,600 ล้านดอลลาร์) ในทุก ๆ เดือน ซึ่งเป็นรายได้จากสินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกอายัด
เมื่อถามว่าอียูจะยกระดับการให้เงินสนับสนุนหรือไม่หากทรัมป์ถอนการสนับสนุนออกไป คอสตาบอกว่า การช่วยเหลือยูเครนจะยังคงมีอยู่ตราบเท่าที่จำเป็น
ด้านเซเลนสกีบอกว่า การเจรจาหยุดยิงในอนาคตกับรัสเซีย ต้องมีตัวแทนจากอียูและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เพราะยูเครนคือความมั่นคงในอนาคตของทั้งสองพันธมิตร แต่เขายังไม่เห็นว่าการเจรจาดังกล่าวจะให้ความสำคัญที่เรื่องใด และว่า ยูเครนจะไม่มีวันยอมรับการยึดครองดินแดนอย่างผิดกฎหมายของรัสเซีย
ปธน.ยูเครน ยังได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนใช้เวลาที่เหลืออยู่ราว 2 เดือนก่อนหมดวาระสร้างอิทธิพลต่อชาติยุโรปที่ยังไม่เชื่อมั่นในอนาคตของพวกเขาและยูเครน
อ้างอิง: CNBC