รมว.คลังแคนาดา ลาออกจากตำแหน่ง อ้าง ‘ทรูโด’ ใช้จ่ายเกินตัวเรียกคะแนนนิยม

รมว.คลังแคนาดา ลาออกจากตำแหน่ง อ้าง ‘ทรูโด’ ใช้จ่ายเกินตัวเรียกคะแนนนิยม

"คริสเตีย ฟรีแลนด์" รมว.คลังแคนาดา ลาออกจากตำแหน่งหลังขัดแย้งกับ "จัสติน ทรูโด" ชี้ ใช้งบประมาณเพื่อเรียกความนิยมและไม่เตรียมกระสุนการคลังให้พร้อมรับมือ "โดนัลด์ ทรัมป์"

หลังจากการประกาศงบประมาณการคลังประจำปี รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโดจากแคนาดา ต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเมืองและการคลังอย่างหนัก หลังจากรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงการคลัง คริสเตีย ฟรีแลนด์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเปิดเผยข้อมูลงบประมาณประจำปี

ในรายงานทางการคลังที่ออกมาในวันจันทร์ พบว่ารัฐบาลแคนาดาขาดดุลงบประมาณถึง 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา (4.35 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ฟรีแลนด์เคยวางไว้ที่ 4.01 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา เหตุผลหลักมาจากค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าคาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินชดเชยให้กับชุมชนชนพื้นเมือง และเงินสนับสนุนในช่วงการระบาดของโควิด-19

ฟรีแลนด์กล่าวหานายกรัฐมนตรีทรูโดว่ามีการใช้ "เล่ห์กลทางการเมืองเพื่อเรียกคะแนนนิยม" (Costly Political Gimmicks) และไม่สามารถรักษา "กระสุนทางการคลัง" (Fiscal Powder Dry) เอาไว้ได้ โดยเฉพาะในบริบทของการคาดการณ์ถึงการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) สู่ทำเนียบขาว

รมว.คลังแคนาดา ลาออกจากตำแหน่ง อ้าง ‘ทรูโด’ ใช้จ่ายเกินตัวเรียกคะแนนนิยม งบประมาณขาดดุลในแคนาดา

แผนงบประมาณระบุว่า แคนาดาจะมีการขาดดุลประมาณ 4.83 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดาในปี 2024-25 หรือคิดเป็น 1.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และคาดว่าจะมีการขาดดุล 4.22 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดาในปี 2025-26

รัฐบาลได้ประกาศค่าใช้จ่ายใหม่หลายรายการ อาทิ งบประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์แคนาดาสำหรับหน่วยงานชายแดนในช่วง 6 ปี เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงการขู่เก็บภาษี 25% จากทรัมป์ หากไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนย้ายผู้อพยพและยาเสพติดเฟนทานิลข้ามพรมแดน

นอกจากนี้ ยังมีการขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีสำหรับธุรกิจที่เริ่มใช้ครั้งแรกในปี 2018 หลังจากการลดภาษีของทรัมป์ช่วงเวลาดังกล่าว โดยการขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีออกไปจนถึงปี 2030 จะมีค่าใช้จ่าย 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อแก้ไขความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

รัฐบาลยังวางแผนที่จะแก้ไขกฎหมายเพื่อจำกัดการนำเข้าและส่งออกกับประเทศที่ "สร้างความเสียหายให้แคนาดา" ซึ่งน่าจะเป็นการเตรียมตัวโต้ตอบภาษีของทรัมป์ โดยอาจเพิ่มภาษีส่งออกสำหรับสินแร่โพแทชและน้ำมันไปยังสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ แคนาดายังมีแผนเก็บภาษีเพิ่มเติมกับจีนเพื่อ "ต่อสู้กับการค้าที่ไม่เป็นธรรม" โดยคาดว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสำหรับผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ แร่ธาตุสำคัญ สารกึ่งตัวนำ แม่เหล็กถาวร และกราไฟต์ธรรมชาติ

ทั้งนี้ รัฐบาลทรูโดได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการใช้จ่ายเกินตัวมาโดยตลอด โดยเอกสารทางการเงินไม่มีแผนที่จะทำให้งบประมาณสมดุล และยังแสดงให้เห็นว่ามีการเพิ่มค่าใช้จ่ายโครงการ โดยนับตั้งแต่งบประมาณเดือนเม.ย. รัฐบาลกลางเพิ่มงบประมาณและมาตรการภาษีสุทธิ 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดาระหว่างปี 2024 ถึง 2030

นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารโนวาสโกเชียมองว่าการออกจากตำแหน่งของฟรีแลนด์และความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้การปรับปรุงงบประมาณครั้งนี้อาจไม่เกิดขึ้นจริง

สำหรับหนี้สาธารณะ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.44 ล้านล้านดอลลาร์แคนาดาภายในปี 2030 โดยค่าใช้จ่ายหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.94 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา จากเดิม 5.37 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดาในปี 2024-25

อ้างอิง: Bloomberg